และก็ถึงยังจุดหมาย ธารน้ำพุร้อนบ่อคลึง ขับรถจาก อ.สวนผึ้ง ไปทางน้ำตกเก้าโจน 16 กม. ลักษณะเป็นลำธารน้ำร้อนเล็กๆ จากเทือกเขาตะนาวศรี มีน้ำไหลซึมออกมาจากตาน้ำใต้ดินไม่ขาดสาย ซึ่งมีก้อนหินใหญ่เล็กเรียงรายตามร่องน้ำตลอดทางประมาณ 300 เมตร สองฝั่งลำธารแวดล้อมด้วยพืชพรรณไม้จากธรรมชาติ การไหลรินของน้ำมีตลอดทั้งปี แม้ในฤดูแล้งปริมาณน้ำไหลจะน้อยลงบ้างไม่ถึงกับแห้ง ที่จุดต้นน้ำซึ่งเป็นตาน้ำผุดออกมาจากใต้ดินนั้นเป็นจุดที่มีอุณหภูมิสูงสุด ความร้อนประมาณ 120-136 องศาฟาเรนไฮต์ สถานที่แห่งนี้พบโดยเอกชนขณะกำลังขุดเหมืองแร่ ในช่วงปี พ.ศ.2468 และทำการปรับปรุงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่อมาจนทุกวันนี้ การจัดการเป็นแบบเรียบง่าย มีค่าเข้าพื้นที่คนละ 5 บาท แล้วเดินเข้าไปอีกหน่อยด้านขวามือจะมีป้ายเขียนว่าพื้นที่ให้กางเต็นท์ และตรงไปอีกนิดก็เป็นจุดที่ลงไปอาบน้ำแร่ได้ ซึ่งบ่อน้ำแร่นี้มีให้เลือก 2 แบบ
คือ กลางแจ้ง เป็นแบบบ่อดิน เปิดโล่งเป็นธรรมชาติ กับ แบบสระปูกระเบื้อง ซึ่งจะอยู่ภายในอีกทีหนึ่ง ป่าป๊าเลือกบ่อดินเพราะดูเป็นธรรมชาติ และราคาถูกกว่า (ผู้ใหญ่คนละ 30 บาท ของหนูฟรีค่ะ) แบบปูกระเบื้องคนละ 50 บาท การแต่งกายก็เป็นเสื้อยืดกางเกงขาสั้น หรือกางเกงวอร์มก็สามารถลงไปแช่น้ำร้อนได้อย่างสบายใจ น้ำในบ่อไม่ลึกมากประมาณเอวผู้ใหญ่ แต่สำหรับหนูยืนแล้วจมแน่ๆ เลยต้องเกาะคนโน้นที คนนั้นที อากาศเย็นๆ ได้อาบน้ำแร่อุ่นๆ แบบนี้ มีความสุขอย่าบอกใคร สมมุติว่าได้ไปอาบน้ำร้อนที่ญี่ปุ่น (ฮอนเซ็น) โดยไม่ต้องเสียตังค์แพงๆ ไงละ
คือ กลางแจ้ง เป็นแบบบ่อดิน เปิดโล่งเป็นธรรมชาติ กับ แบบสระปูกระเบื้อง ซึ่งจะอยู่ภายในอีกทีหนึ่ง ป่าป๊าเลือกบ่อดินเพราะดูเป็นธรรมชาติ และราคาถูกกว่า (ผู้ใหญ่คนละ 30 บาท ของหนูฟรีค่ะ) แบบปูกระเบื้องคนละ 50 บาท การแต่งกายก็เป็นเสื้อยืดกางเกงขาสั้น หรือกางเกงวอร์มก็สามารถลงไปแช่น้ำร้อนได้อย่างสบายใจ น้ำในบ่อไม่ลึกมากประมาณเอวผู้ใหญ่ แต่สำหรับหนูยืนแล้วจมแน่ๆ เลยต้องเกาะคนโน้นที คนนั้นที อากาศเย็นๆ ได้อาบน้ำแร่อุ่นๆ แบบนี้ มีความสุขอย่าบอกใคร สมมุติว่าได้ไปอาบน้ำร้อนที่ญี่ปุ่น (ฮอนเซ็น) โดยไม่ต้องเสียตังค์แพงๆ ไงละ
น้ำในบ่อข้างนอก อุ่นกำลังดี มีท่อต่อจากต้นน้ำบนภูเขาลงมาที่บ่ออีกที และน้ำจะไหลเวียนออกไปตลอดเวลา หนูสงสัยว่าน้ำแร่ธรรมชาติจะมีวันหมดไปมั๊ย ถ้าหมดแล้วเขาจะเอาน้ำมาต้มให้ร้อน ทำเป็นน้ำแร่ให้นักท่องเที่ยวมาอาบต่อไป หรือเปล่านะ? (ฮ่า ฮ่า)
ในที่สุดหนูก็ต้องกล่าวคำอำลา จ.ราชบุรี เป็น 2 วัน 1 คืน ที่มีความสุขในครอบครัว เราอาจจะเถียงกันบ้าง บ่นกันบ้าง หรือหงุดหงิดใส่กันบ้างในตอนอยู่บ้าน แต่เมื่อนึกถึงรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความทรงจำดีๆ ที่ได้มาทำบุญไหว้พระ ขอพรร่วมกัน ก็เป็นเหมือนการเพิ่มพลังแห่งความรักในครอบครัว ขอบคุณพระเป็นเจ้าสำหรับการเดินทางที่ปลอดภัย ขอบคุณสำหรับพระพรต่างๆ ที่หนูได้รับทุกครั้งที่วอนขอ และขอบคุณที่ให้หนูได้เกิดมาเพื่อสัมผัส ความสวยงามจากสิ่งสร้างบนโลกใบนี้
ปล.พบกันใหม่กับทัวร์ครั้งหน้าเร็วๆ ตามคำสโลแกน เที่ยวไทยครื้นเครง เศรษฐกิจไทยคึกคักค่า.. หนูเอย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น