[คอลัมน์กรุงเทพธุรกิจ] เทสล่ากับ “Shanghai Speed”
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวใหญ่ในแวดวงอุตสาหกรรมจีน โรงงานรถยนต์เทสล่าในมหานครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้เริ่มเดินเครื่องผลิตและส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่น Model 3 ให้กับลูกค้าชาวจีน โดยอีลอน มัสก์ ได้เดินทางไปส่งมอบรถด้วยตัวเอง
อีลอน มัสก์ บอกว่าประทับใจมากๆ กับ "Shanghai speed" หรือความเร็วในการผลิตของเซี่ยงไฮ้ เพราะประสิทธิภาพและความเร็วนี้นี่แหละที่ช่วยพลิกฟื้นธุรกิจให้เทสล่า
เพียงหกเดือนที่แล้ว ถ้าใครยังจำได้ บริษัทเทสล่าที่สหรัฐอเมริกาประสบปัญหาอย่างมากในด้านการผลิตรถยนต์ เพราะโรงงานที่สหรัฐฯ ไม่สามารถผลิตรองรับดีมานด์ตลาดและไม่สามารถส่งมอบรถยนต์ที่รับออร์เดอร์ไปแล้วได้ จนตอนนั้นมีข่าวทำนองว่าเทสล่าประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน ไม่รู้ว่าจะล้มหรือไม่
กลยุทธ์ของอีลอน มัสก์ นอกจากจะมุ่งแก้ปัญหาการผลิตของโรงงานเทสล่าในสหรัฐฯ แล้ว เขายังเดิมพันครั้งใหญ่ด้วยการเดินหน้าบุกตลาดและสร้างอภิมหาโรงงานที่จีน ซึ่งนับเป็นฐานการผลิตแห่งแรกนอกประเทศสหรัฐอเมริกาของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบรนด์ดังเจ้านี้
สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือ ตั้งแต่ประกาศลงทุนสร้างโรงงานในจีนจนเปิดโรงงานเดินสายพานการผลิตได้สำเร็จ ใช้เวลาเพียง 10 เดือนเท่านั้น นี่แหละครับที่เรียกว่าเป็น "Shanghai speed" (เปรียบเทียบกับโรงงานของเทสล่าในสหรัฐฯ ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างถึง 2 ปี)
10 เดือนที่แล้ว ที่ตั้งของโรงงานยังเป็นทุ่งนาชานเมืองอยู่เลยครับ โดยเป็นพื้นที่ว่างเปล่าขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างจากตัวมหานครเซี่ยงไฮ้ประมาณ 90 นาที ในปัจจุบัน โรงงานแห่งนี้สามารถผลิตรถยนต์ได้ชั่วโมงละ 28 คัน เท่ากับผลิตได้คันใหม่ทุกๆ 2 นาที และตั้งเป้าว่าในปี ค.ศ. 2020 ทั้งปีจะต้องผลิตให้ได้ 150,000 คัน และเมื่ออภิมหาโรงงานสร้างเสร็จสมบูรณ์ ในหนึ่งปีจะต้องยกระดับการผลิตให้ได้ถึง 500,000 คัน (ลองเปรียบเทียบกับโรงงานใหญ่สองแห่งในสหรัฐฯ ในปี 2019 ผลิตได้รวมกัน 360,000 คัน)
“Shanghai speed” นี่มาจากอะไรครับ บางคนบอกว่ามาจากการทำงานหนักของแรงงานจีน บางคนบอกว่ามาจากเทคนิคการผลิตของเทสล่า แต่ที่สำคัญกว่านั้น ประสิทธิภาพในการผลิตของโรงงานเทสล่าในจีนยังสะท้อนความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมจีนใน 3 เรื่องด้วยกัน
หนึ่ง ความพร้อมเรื่องห่วงโซ่การผลิตภายในจีน ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ ลำตัวเครื่อง วงจรควบคุม บริษัทใหญ่ 10 อันดับแรกในอุตสาหกรรมเหล่านี้ เป็นบริษัทของจีนมากกว่าครึ่งครับ แถมบริษัทเหล่านี้ส่วนมากยังมีโรงงานการผลิตชิ้นส่วนอยู่ในบริเวณลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงที่ใกล้กับเซี่ยงไฮ้ด้วย เพราะฉะนั้นจึงสามารถจัดหาชิ้นส่วนในการผลิตได้ครบถ้วนอย่างรวดเร็ว
สอง แรงงานทักษะในจีนจำนวนมหาศาล เพียงแค่บริษัทเทสล่าประกาศรับสมัครแรงงานและวิศวกร ก็สามารถหาแรงงานจำนวนมากที่มีคุณภาพได้ไม่ยากด้วยค่าแรงที่ถูกกว่าค่าแรงในสหรัฐฯ
สาม การสนับสนุนอย่างเต็มที่ของรัฐบาลจีนและรัฐบาลเซี่ยงไฮ้ ว่ากันว่ามีการลดทอนขั้นตอนการขออนุญาตและการก่อสร้าง โดยรัฐบาลลงมาอำนวยความสะดวกเต็มที่ นิตยสารฟอร์จูนรายงานว่ารัฐบาลจีนยังยกเว้นภาษีการขาย 10% และยังช่วยอุดหนุนเงิน 24,750 หยวนต่อคัน เพื่อช่วยกดให้ราคาการขายถูกลง
งงไหมครับว่าจะเอาใจเทสล่าขนาดนี้ไปเพื่ออะไร และรัฐบาลจีนได้ต่อรองอะไรบ้าง เท่าที่ประมวลข้อมูลดู สิ่งที่เทสล่ารับปากมีดังนี้ครับ
สำหรับช่วงแรกนี้ รถยนต์เทสล่าที่ผลิตในจีนยังคงใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในจีนเพียง 30% เท่านั้น แต่เทสล่ารับปากว่าภายในกลางปีนี้ จะใช้ชิ้นส่วนจากจีนเพิ่มเป็น 70% และภายในสิ้นปีจะใช้ชิ้นส่วนจากจีน 100%
เทสล่ายังรับปากว่า จะมีการสร้างศูนย์ R&D ขนาดใหญ่ในประเทศจีนที่จะสามารถออกแบบรถยนต์ในประเทศจีนได้เลย ไม่ต้องใช้แม่แบบการออกแบบจากศูนย์วิจัยในสหรัฐฯ นอกจากนั้น ทีมผู้บริหารและผู้จัดการโรงงานยังเป็นคนจีนอีกด้วย
รัฐบาลเซี่ยงไฮ้แถลงว่าเงินลงทุนของเทสล่าถือเป็นจำนวนเม็ดเงินลงทุนในด้านอุตสาหกรรมการผลิตที่มีปริมาณสูงที่สุดในประวัติศาสตร์จีน แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นที่รัฐบาลจีนมองก็คือ ไม่เพียงแต่โรงงานของเทสล่าจะใช้ประโยชน์จากห่วงโซ่การผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในปัจจุบันของจีน แต่จะยังจะช่วยขับเคลื่อนและยกระดับห่วงโซ่การผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของจีนอีกด้วย
มีนักวิเคราะห์อธิบายว่า รถยนต์เทสล่า เปรียบเสมือน iPhone ในยุคก่อน ตอนที่ iPhone มาใช้ฐานการผลิตที่จีน ส่งผลให้เกิดห่วงโซ่การผลิตชิ้นส่วนสมาร์ตโฟนในประเทศจีนตามมา ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ แบตเตอรี่ ชิปประมวลผล จนต่อมายังทำให้เกิดบริษัทสมาร์ตโฟนสัญชาติจีนไม่ว่าจะเป็นหัวเว่ย เสี่ยวมี่ vivo oppo ซึ่งใช้ประโยชน์จากห่วงโซ่การผลิตชิ้นส่วนสมาร์ตโฟนในจีนที่ครบถ้วน
เช่นเดียวกัน การเข้ามาของเทสล่า และการรับปากว่าจะใช้ชิ้นส่วนจากจีน 100% ย่อมจะขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาห่วงโซ่การผลิตชิ้นส่วนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในจีน สุดท้ายย่อมจะขับเคลื่อนให้บริษัทรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของจีนเองพัฒนาขึ้นและใช้ประโยชน์จากห่วงโซ่การผลิตชิ้นส่วนเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
การผลิตรถยนต์รุ่น Model 3 ของเทสล่าในเซี่ยงไฮ้ มีต้นทุนถูกลง 65% เมื่อเปรียบเทียบกับที่ผลิตในสหรัฐฯ ปัจจุบันราคารถที่ผลิตในจีนขายอยู่ที่ 300,000 หยวน ซึ่งใกล้เคียงกับราคารถเบนซ์ Audi BMW ในจีน ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของจีนคิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งโลก
ตอนนี้ คำว่า “Shanghai speed” จึงไม่ใช่เพียงแค่ความเร็วในการสร้างโรงงานและประสิทธิภาพในการผลิต แต่ยังหมายถึง ความเร็วที่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะมาแทนที่รถยนต์ที่ใช้น้ำมันในประเทศจีน ซึ่งจะตอบโจทย์การรักษาสิ่งแวดล้อม และการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศจากฝุ่น PM 2.5 ของรัฐบาลจีนด้วย
สหภาพยุโรปตั้งเป้าว่า จะเปลี่ยนรถยนต์ทั้งหมดในยุโรปเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในปี ค.ศ. 2040 เชื่อผมไหมครับว่า “Shanghai speed” จะเร็วกว่านั้นเยอะ โลกอนาคตในจีนมักมาถึงเร็วกว่าที่คาด และหลายคนทำนายอวสานของรถยนต์น้ำมันในจีนว่าจะเกิดขึ้นภายใน 10 ปี!
...
Speed is Spirit.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น