2557/11/22

กว่าทศวรรษที่ได้รู้จัก บุญถาวร



สุวัฒน์  พรฤกษ์งาม ( พี่จื้อ )  จบจากมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ ศึกษาภาษาจีนเพิ่มเติมเป็นระยะเวลา 1 ปี และได้เข้ามาร่วมงานกับ บุญถาวร ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่การตลาด ในปี พ.ศ.2545

จุดเด่นของ 
บุญถาวร 
คือความเป็น Specialist 
ในด้านกระเบื้องและสุขภัณฑ์

“เทคนิคในการเพิ่มยอดขาย คือ คัดสรรตัวสินค้าที่ขายดีและสามารถขายได้ นำมาขาย แต่ในเบื้องต้นก็ขึ้นอยู่กับพนักงานทั้งหมด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวพี่คนเดียว ตัวพี่เองนั้นพยายามจะผลักดันและกระตุ้นให้พนักงานมีภาพของตัวเองและมีเป้าหมายของตัวเองก่อน เพราะถ้าพนักงานขายไม่มีเป้าหมาย ไม่มีภาพของตัวเองในอนาคต เขาก็จะทำงานแบบผ่านไปวันๆ ไม่รู้เป้าหมาย แต่ถ้าคนไหนที่มีเป้าหมายชัดเจน เขาก็จะเดินขายแล้วก็จะทำยอดขายได้   พี่ก็จะบอกพี่ๆ supervisor ให้ช่วยอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการสต็อกสินค้า การวางสินค้า ราคาสินค้า แต่ทั้งหมดทั้งมวล ก็ขึ้นอยู่กับตัวพนักงานขายเองด้วย”

“คู่แข่งขันที่มีเพิ่มมากขึ้นถามว่ามีผลไหม??"
แน่นอนว่าต้องมีบ้างแต่มันก็เป็นความสนุกของการแข่งขันแบบเสรี ที่จะต้องมีเพื่อนๆมาร่วมแข่งขัน เพราะตราบใดที่ธุรกิจขายได้และขายดี ยังไงก็ต้องมีเพื่อนมาช่วยค้าขาย ทีนี้เราจะต้องทำยังไง เราก็ต้องดูว่าตัวเราพร้อมหรือเปล่าในสนามแข่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทีมงาน เรื่องของตัวสินค้า อันไหนที่เราสู้เขาไม่ได้เราก็ดูว่า ใช่ core business (ธุรกิจหลัก) ของเราไหม ถ้าไม่ใช่ก็ให้เขาไปเถอะ แต่ถ้าเป็น core business ของเรา เราก็ต้องหยิบขึ้นมาดูแล้วว่าเป็นที่ตรงไหน เพราะอะไรที่เรายังด้อยกว่าคู่แข่งขัน

“แล้วต้องทำอย่างไรจึงจะเหนือคู่แข่งขัน.....?”
พี่ว่าอย่าใช้คำว่าเหนือคู่แข่งเลย คือเรามองว่าเราแข่งกับตัวเองดีกว่า เหมือนเราเล่นหมากล้อม การเล่นหมากล้อมคือเราไม่ต้องไปชนะคู่แข่ง หรือกำจัดคู่แข่งขัน แต่เราจะทำอย่างไรให้ตัวเราแข็งแรง เติบโตและพัฒนาขึ้นได้ในทุกๆด้าน ถ้าเดิมที่ผ่านมาเรารู้ว่าเราบกพร่องในเรื่องไหนแล้วเราสามารถอุดรูรั่วตรงนั้นและพัฒนาให้ดีขึ้นได้น่าจะดีกว่า

ส่วนการจัดการพนักงานให้อยู่ในระเบียบ ก็ใช้การขอความร่วมมือก่อนเป็นอันดับแรก เพราะบุญถาวรเองก็มีสโลแกนที่เคยใช้ก่อนหน้านี้ว่า บุญถาวรแฟมิลี่ ซึ่งปัจจุบันนี้ใช้เป็น บุญถาวรไอเดียดีๆมีได้ไม่รู้จบ ส่วนการจะเป็นบุญถาวรแฟมิลี่ได้นั้น ก็ต้องมีการพูดคุยกันก่อน ขอความร่วมมือกันก่อน  ถ้าขอความร่วมมือแล้วผู้ที่รับสารหรือทีมงานเข้าใจแล้วปฏิบัติตาม ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าเกิดไม่ปฏิบัติตามก็ต้องว่ากันไปตามกฎ กติกามารยาท ตามลำดับที่ตั้งไว้ พี่ก็ใช้วิธีง่ายๆแบบนี้แหละจะให้มาตีหน้ายักษ์ทุกวันคงไม่ไหว

“สำหรับผู้ที่อยากร่วมงานกับบุญถาวร"
เพียงแค่คุณมีความมุ่งมั่นตั้งใจ ก็ walk in เข้ามาสมัครได้เลย แล้วก็ดูว่าตัวเองมีเป้าหมายอะไร ถ้าสนใจในเรื่องการขาย ก็คงเน้นรายได้เป็นหลัก แต่ถ้าสนใจในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์เป็นหลัก ก็จะไปอยู่ด้านดีไซน์เนอร์ แต่บุญถาวรเอง ก็ไม่ได้เน้นหนักไปทางด้านดีไซน์เนอร์ ทางเราพยายามครีเอททางด้านนี้ ซึ่งถ้าเกิดคนกลุ่มนี้ได้เข้ามาร่วมงาน และสามารถพัฒนาตัวเองไปทางด้านการขายได้ก็จะมีศักยภาพมากกว่าพนักงานขายทั่วไป ซึ่งแน่นอน nobody perfect

หลายๆมหาวิทยาลัยพยายามสร้างคนให้เก่งทั้ง 2 ด้าน ทั้งด้านดีไซน์เนอร์และด้านการขาย แต่ถามว่ายากไหม พี่ว่ายากนะ เพราะแต่ละกลุ่มก็จะมีความเป็นตัวเองในด้านของเขา แต่เราจะทำอย่างไรให้ทั้ง 2 กลุ่มนี้รวมเป็นหนึ่ง หรือทำอย่างไรให้ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น เพราะถ้าคน 2 กลุ่มนี้ทำงานร่วมกันได้ เมื่อมีลูกค้าเข้ามาแล้วเขาสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ทั้งในด้านความคิดสร้างสรรค์และมีความชำนาญในด้านการขาย ก็มีโอกาสที่จะเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น

อยากฝากถึงคนที่ร่วมงานกันเรื่องการเคารพสถานที่หรือเข้าใจในชีวิตการทำงาน คือ ที่ทำงานไม่ใช่ที่บ้าน อยากให้แยกที่ทำงานกับที่บ้านให้ได้ แต่แน่นอน 2 เรื่องนี้เราต้องบาลานซ์กันให้ได้ work & life ฉะนั้นการที่คุณมาทำงาน คุณมีหน้าที่อะไรบ้างและทำในสิ่งที่นอกเหนือจากสิ่งที่มอบหมาย

ถ้าเกิดสงสัยอะไรให้ถามอย่าเก็บไว้และคิดเอาเองว่า ถามไปก็เท่านั้น เกรงใจพี่ คือพี่อยากให้ถามเยอะๆ เพราะการถามจะทำให้เกิดการคิด ส่วนการคิดจะทำให้เกิดวิธีการทำงานใหม่ๆ เพราะฉะนั้นเองไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการถาม ถามได้แต่อยากให้ถามเป็นลำดับขึ้นมาก่อน เช่นถาม leader ก่อน ถาม supervisor แล้วก็เรียงลำดับขึ้นเรื่อยๆมา เพราะถ้ามาที่พี่เลยหมดทุกเรื่องคงไม่ไหว

สำหรับผู้ที่เริ่มต้นใหม่ กับบุญถาวรก็คงต้องมีการทบทวนอย่างเสมอ พยายามให้ความสนใจกับสิ่งนั้นบ่อยๆ อย่างเช่น การเดินเก็บกระเบื้อง  พี่มองว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก คือ หลายคนไม่รู้ว่าการเดินเก็บกระเบื้องทำให้คุณได้เรียนรู้  เพราะตัวพี่เองเวลาเดินเก็บกระเบื้องพี่ก็จะจำได้ว่า สินค้าตัวนี้ชื่ออะไร ลักษณะหน้าตาเป็นอย่างไร ยี่ห้ออะไร เผื่ออนาคตลูกค้ามาถาม อาจจะเป็นตัวที่เราเคยเก็บก็เป็นได้ อย่างน้อยเราก็ได้ผ่านตา จึงเป็นโอกาสที่เราจะปิดการขายได้เร็วขึ้น คือทุกอย่างถ้าเรามองให้เป็นเรื่องดีเป็นเรื่องสนุก เราก็จะสนุกกับสิ่งนั้น ถ้าเรามองว่าเป็นเรื่องไม่ดีมันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร แล้วพวกที่ชอบมองว่ากฎมีไว้แหกพี่ก็เข้าใจว่ามันท้าทายแต่ทุกอย่างก็ต้องมีลิมิต เราอยู่กับคนหมู่มากมันก็ต้องมีกฎกติกาไว้ควบคุมเพราะไม่อย่างนั้นเองสังคมก็จะอยู่ยากวุ่นวายพอสมควร

"กิจกรรม ONE MORNING ONE PRODUCT"
พี่รู้จักกิจกรรมนี้ตั้งแต่เข้าบุญถาวรมาเลย มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งแนะนำให้ทำ พี่คิดว่าเป็นกิจกรรมที่ดีมีประโยชน์ แต่ทุกวันนี้บางคนกลับมองเป็นภาระ ซึ่งจริงๆแล้วประโยชน์หลักๆขึ้นอยู่กับตัวผู้พูดสินค้านั้นๆ คือการที่จะพูดก็จะต้องมีการศึกษาก่อนว่าเป็นอย่างไร เพราะอย่างนั้นใครที่ได้รับเกียรติให้มาพูดคุณรู้ไหมว่าคุณได้เรียนรู้ ได้ความรู้ ได้มากยิ่งกว่าทองอีก เพราะความรู้จะไม่มีวันสูญหายจะอยู่กับเราไปตลอด อย่างน้อยคุณก็จะได้รู้จัก ได้ผ่านหูผ่านตาบ้าง จึงอยากจะฝากไว้ว่าให้มองเป็นเรื่องสนุก คนพูดก็จะได้ประโยชน์ คนฟังก็จะสนุกและได้ประโยชน์ไปด้วย แต่ไม่ซึมซับเท่าคนที่พูด เพราะอย่างนั้นเอง จึงอยากจะให้ทำเหมือนเป็นการเล่นเกมส์ และตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดมีสีสัน แล้วยิ่งถ้าเกิดเรามองว่าเป็นเรื่องสนุกน้ำเสียงการพูดการนำเสนอจะออกมาสนุกสนาน  อย่ามองว่าเป็นภาระ ถ้ามองว่าเป็นภาระแล้วตัวเราเองจะพูดไม่น่าสนใจ เปรียบง่ายๆให้มอง one morning เป็นผู้หญิงเราจะศึกษายังไง คนที่เข้ามาจีบจะเป็นยังไงหรือตัวผู้หญิงเองจะพัฒนาตัวเองยังไงให้มีเสน่ห์ มีสีสัน คนเราจะดูดีได้จะต้องมาจากข้างใน ไม่จำเป็นต้องดูรูปกายภายนอกก่อน บางคนสวยมาก แต่ก็เท่านั้น บางคนดูดีและเก่งด้วยมันก็ยิ่งดีไปกันใหญ่
one morning ก็เช่นเดียวกันจะทำยังให้ดูดีมีเสน่ห์น่าสนใจ เพราะอย่างนั้นก็ต้องฝากให้ทุกคนพยายามทำ สาขาเกษตร-นวมินทร์เรามีแค่ จันทร์-พุทธ-ศุกร์ และอีกอย่างก็เป็นการสร้างสัมพันธภาพ สร้างสังคมระหว่างเจ้าของสินค้า ( PC ) กับพนักงานขาย ( Sale) ที่บางคนอาจจะไม่เคยได้คุยกันหรืออาจจะไม่เคยรู้จักตัวสินค้าตัวนี้เลย จะได้รู้จักกันมากขึ้นส่วนคนฟังก็ตั้งใจฟังเถอะ ก็อยากจะฝากไว้


"C & D เทคนิคการเพิ่มยอดขายสำหรับเด็กรุ่นใหม่กับชีวิตดิจิตอล"
เด็กรุ่นใหม่ค่อนข้างจะเป็นดิจิตอลเพราะ Facebook ,Line เป็นประโยคสั้นๆอ่านปุ๊บแล้วก็ผ่านแล้วยิ่งมี copy & paste คนส่วนใหญ่ก็จะแค่ copy และก็ paste ลงไป โดยลืมตัวว่ามันจะส่งผลอะไรมาก  หรือ แค่ copy และส่งๆ ต่อๆกันไป แต่ขาดการคิดวิเคราะห์

อยากให้คุณดูว่าของเก่าเป็นยังไง แล้วนำมาพัฒนาได้ไหม โดยการพัฒนาในส่วนที่เหมาะกับตัวเรา บางสิ่งบางอย่างไม่เหมาะกับตัวเรา เราก็ไม่ต้องนำมา  ดังนั้นจึงอยากฝากเรื่องการเรียนรู้และการตั้งคำถาม
การเรียนรู้คืออะไร? การเรียนรู้คือการที่คุณได้เรียนรู้สินค้า ได้อ่านข้อมูลใน facebook หรือที่ไหนก็ตามที่คุณอ่านแล้วคุณก็คิดแล้วตั้งคำถามว่าที่เค้าส่งมาจริงหรือไม่  ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น  พอเราตั้งคำถามจะเกิดการคิด แล้วการคิดจะทำให้เกิดการพัฒนา

เวลาพี่พูดกับคนทำงานทั่วไป พี่ก็จะแนะนำให้นำหลัก C&D ไปใช้ คือไม่ต้องไปคิดเยอะไปดูว่าคนอื่นเขาทำกันอย่างไร อะไรที่คนอื่นทำแล้วดีคัดลอกเขามาแล้วมาคิดว่าจะพัฒนาต่อไปได้อย่างไรให้ดีกว่า เราคงไม่ใช่ R&D คือ Research(การวิจัย) & Develop (การพัฒนา ) คือการค้นคว้าจากสิ่งที่ไม่มีเลยนี่คือการวิจัย แต่นั่นคือนักวิทยาศาสตร์ แต่เราคือคนทำงาน สังคมมีอะไรอยู่แล้วมากมายบนโลกใบนี้ เราแค่คัดลอกแล้วนำมาพัฒนาแล้วเราก็จะเกิดการเรียนรู้และตั้งคำถาม ยกตัวอย่างง่ายๆอย่างลายกระเบื้องก็เห็นเป็น C&D เยอะมาก แต่ตลาดก็เป็นคนละกลุ่มกัน ตลาดคนไทยก็ราคาคนไทย ส่วนกระเบื้องยุโรปก็มีตลาดของกระเบื้องกลุ่มยุโรปอยู่แล้วไม่ต้องห่วงว่า copy กันมาเยอะแล้วจะขายกันไม่ได้
-----





2557/06/25

โตโยต้า อัสติส ซีเอ็นจี ALTIS CNG ประหยัดแล้วประหยัดอีก




รถครอบครัวขนาดกลางใช้ก๊าซ NGV
ตัดสินใจใช้รถคันนี้ด้วยเหตุผล ดังนี้
1. แถวที่ทำงานมีปั๊ม NGV 3 แห่ง
2. ต้องการลดมลภาวะทางอากาศ
3. ต้องการสีรถที่ถูกโฉลกกับตัวเอง

ด้วยเหตุผลแค่นี้ จึงไปถอยรถ TOTOTA ALTIS  CNG  สี Silver Metalic.
เมื่อกลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา  แล้วก็ออกรถวันที่ 6 พ.ค.57
มาถึงเวลานี้ ใช้มา 1 เดือนกว่าๆ
ค่าเฉลี่ยในการใช้ คือ

*****************************
ระยะทาง 1 กม. แค่ 0.80 บาท เท่านั้น
เฉลี่ยเดือนหนึ่ง ค่า NGV ประมาณ 1,500 บาท
การเติมแต่ละครั้ง ต่อแถว เพียงแป๊บเดียว ไม่นานเหมือนในอดีต

*****************************

เติมก๊าซ ครั้งหนึ่งอยู่ที่ 110 - 140 บาท เท่านั้น.. จะอยู่ได้ประมาณ 3-4 วัน (อันนี้แล้วแต่ว่าขับมากน้อยแค่ไหน)




การขับขี่บนโทลล์เวย์ สูงสุด 160 กม./ชม.  (ไม่กล้าเหยียบมากกว่านี้เดี๋ยวตำรวจจับ)
การเร่งเครื่องก็ดีในระดับที่ซิ่งแซงไปได้โดยทั่วไป.. ไม่ต้องกังวลว่ามันจะอืด

ที่ผ่านมาเติมน้ำมัน แค่ 2 รอบ... รอบละ 500 บาท  ก็อยู่ได้ยาวนานมากกกกกก เพราะรอบที่สองที่เติมก็ยังไม่กระดิกลงมาซักเท่าไรเลย


สำหรับคนที่มองหารถซักคัน ก็แนะนำรุ่นนี้ให้เลยนะครับ.. แต่ก่อนตัดสินใจซื้อ.. ท่านต้องดูด้วยว่ามี ปั๊ม NGV อยู่ใกล้บ้าน หรือ ที่ทำงานหรือไม่???  เพื่อความสะดวกและความสบายใจในการใช้งาน


2557/06/16

ฝึกมังกรอย่างไร?? หรือ ฝึกใจเราอย่างไร??

มังกรจะดี ก็เมื่อมีผู้นำที่ดี
ร่างกายจะดี ก็เมื่อมีจิตใจนำที่ดี

มังกรเลว เพราะคนนำเลว
ร่างกายที่เศร้า ก็เมื่อมีจิตใจที่เศร้าเช่นกัน

เขี้ยวกุด ก็ยังเป็นพระเอกในใจเสมอ...
พระเอก..ก็รู้จักให้อภัย.. จึงจะได้พลังอันยิ่งใหญ่...


ลองไปดูได้ที่โรงหนัง หรือ จะรอแผ่น DVD ก็ได้แล้วแต่ท่านนะค่ะ


2557/05/26

วันเกิด



วันเกิดท่านเวียนมาอีกคราวหนึ่ง
ยังตราตรึงเตือนใจไม่รู้หาย
ด้วยระลึกถึงกันอยู่มิรู้วาย
ไม่เสื่อมคลายจากจิตสักนิดเลย
ขอสิ่งเกื้อการุณย์ค้ำจุนหล้า
โปรดเมตตาประทานพรอย่าเมินเฉย
ให้สุขสันต์หรรษากว่าที่เคย
ทรัพย์สินเงยงอกงามล้นหลามไป
สุขภาพร่างกายให้กล้าแกร่ง
ดูทะมัดทะแมงไม่ป่วยไข้
เฉิดฉวีผิวผ่องเป็นยองใย
ผู้ใดได้พบเห็นสะดุดตา
ประกอบกิจการใดที่ใจมั่น
ให้สำเร็จเสร็จพลันดังปรารถนา
อายุยืนหมื่นเท่าเสาศิลา
สุดจะหาใดเปรียบไม่เทียบทาน
ทั้งชื่อเสียงเลื่องลือระบือลั่น
ดังสนั่นก้องไกลแผ่ไพศาล
เจริญสุขสรรเสริญเจริญงาน
ให้เบิกบานในชีวิตเป็นนิจเทอญ


2557/03/28

อานาปานสติ ณ เสถียรธรรมสถาน หรือการปฏิบัติธรรม นุ่งขาว ห่มขาวนั่นเอง

อานาปานสติ ณ เสถียรธรรมสถาน
การเดินทางไปปฏิบัติธรรม ที่เสถียรธรรมสถาน เราเดินทางไปถึงก่อน 4 โมงเย็น จึงเข้าไปสำรวจพื้นที่ก่อนเพราะที่นั้นไม่มีที่จอดรถต้องจอดริมถนนซึ่งจอดได้ถึง 4 โมงเย็นเท่านั้น  เดินเข้าไปเพื่อเยี่ยมชมสถานที่แล้วก็ได้พบกับแม่ชีศันสนีย์ โดยไหว้ด้วยใจที่น้อบน้อมแต่ไม่ได้แนะนำตัวว่าเราคือใครเพราะไม่อยากเปิดเผยตัว อยากมาแบบเงียบๆ  แล้วก็เดินไปถามเจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งว่า ถ้าเอารถมาผมต้องเอาไปจอดที่ไหนครับ เขาแจ้งว่าลองขับไปที่ TV Direct แล้วถามรปภ.ว่าขอจอด    แว้บแรกกะว่าจะถอดใจไม่เข้าร่วมแล้ว และกะจะขับรถกลับเลย แต่แว้บสองก็ลองซะหน่อยนะเดี๋ยวก็คงมีที่จอดรถ  จึงตัดสินใจขับไปที่ TV Direct แล้วแจ้งรปภ.ว่าขอจอดหน่อยนะครับพี่ แล้วพี่คิดค่าใช้จ่ายอย่างไร ทาง รปภ.ก็ยิ้มแล้วแจ้งว่าไม่คิดครับพี่ แล้วแต่พี่จะให้เป็นค่ายากันยุง ค่าน้ำเย็น เพราะอากาศร้อน  เราก็เลยให้ไป 100 บาท เพื่อความสบายใจ แล้วเป็นการช่วยเหลือพี่รปภ.ด้วยอีกทางหนึ่ง ซึ่งพี่เขาก็แนะนำดีว่าให้ล๊อกรถให้สนิท แล้วอย่าลืมของอะไรไว้ในรถนะครับ
          ได้เวลา 4 โมงเย็น ก็เดินไปลงทะเบียน แล้วใส่ซองถวายปัจจัยตามที่เราเขียนไว้ (ตามกำลังตนเอง และกำลังศรัทธา)  พร้อมกับถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ ณ สถานที่แห่งนี้ บรรยากาศดีมาก มีไอน้ำเย็นสบายแล้วต้นไม้เขียวขจีสวยงามตามคำร่ำลือจริงๆ ชอบกับบรรยากาศที่นี้พอสมควร  ทางแม่ชีที่ดูแลตรงจุดลงทะเบียน ได้ให้บัตรที่เขียนชื่อตนเอง แล้วห้องพัก 401  อาคาร ไตรสิกขา  เดินตามเจ้าหน้าที่เพื่อไปที่พักแล้วก็ต้องอึ้งกับที่พัก เพราะเป็นอาคาร 4 ชั้นที่สร้างขึ้นมาแบบเรียบง่าย  เราพักที่ชั้น 4 พอเข้าไปแล้วชอบห้องพักมาก เป็นห้องพักที่มีห้องน้ำในตัว เตียงขนาดกะทัดรัด ซึ่งนับว่าโชคดีช่วงที่เราไปอากาศตอนเย็นก็กลับมาเย็นสบายอีกครั้ง ไม่ถึงกับร้อนมาก  ชื่นชมกับห้องพักและทำธุระส่วนตัวเสร็จ  ก็รีบเปลี่ยนเสื้อขาวเพื่อไปร่วมกิจกรรมแรก คือ การโยคะ  เรารู้สึกสนุกกับการทำโยคะมาก แล้วเห็นว่าหลายท่าที่เขาให้ทำ เราก็ทำไม่ค่อยจะได้เพราะเส้นมันตึงมาก หลังกจากนั้นก็มีการปฐมนิเทศ โดยแจ้งว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นพิเศษที่จะมีการยกยอดฉัตรในวันรุ่งขึ้น (เสาร์ 22 ก.พ.)  ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งปาฏิหาริย์ที่เราจะได้ร่วมทำบุญยกยอดฉัตรครั้งแรกในชีวิต  โดยนึกไม่ถึงว่าจะได้มาร่วมงานยกยอดฉัตร และก็แอบงงๆว่า การยกยอดฉัตรนั้นมีความสำคัญอย่างไร

          ยามเย็นหลังจากปฐมนิเทศเสร็จ เขาก็ปล่อยอิสระให้กับผู้ที่จะเข้ามาอบรม ซึ่งเราก็เดินไปเดินมาที่โรงอาหารซึ่งทางร้านค้าเขายังไม่ปิด เขาก็พูดว่าสั่งอาหารได้นะค่ะ เดี๋ยวครัวปิด 6 โมงแล้วสั่งไม่ได้นะค่ะ  ด้วยความหิวข้าวเย็นก็เลยสั่งข้าวไข่เจียวเห็ดราดข้าวมากิน  เป็นอาหารที่อร่อยมาก ชอบๆ เมนูนี้ เอาไว้วันเหลังจะกลับไปสั่งกินเรื่อยๆ แทนใส่หมูสับ
          เวลา 1 ทุ่ม แม่ชีศันสนีย์ ลงมาบรรยายธรรม เล่าถึงที่มาว่าทำไมถึงมีการยกยอดฉัตรกันที่นี้ เพราะท่านต้องการทำถวายองค์พระโพธิสัตว์ที่เป็นปางผู้หญิง เรียกว่า พระอารยตารามหาโพธิสัตว์  พร้อมกับเล่าประวัติคร่าวๆ เกี่ยวกับการไปช่วยเหลือประชาชนชาวพม่าที่โดนพายุนากีสถล่มเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จึงได้รู้จักกับท่านพระอาจารย์สยาดอร์ไจทีเซา แห่งวัดไจทีเซา สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์  แล้วขอให้ท่านมาเป็นประธานในวันพรุ่งนี้  แม่ชีได้ขอให้พวกเราทำกุศลครั้งนี้ด้วยใจที่ไม่มีอคติ และเราจะมีกำลังในการทำงานแล้วถึงจะมีกำลังดึงความดีที่มีอยู่รอบตัวเรามาให้การทำงานนั้นสำเร็จ  การนั่งฟังในครั้งนี้เราก็ได้นั่งข้างๆ กับคนพม่าด้วยจึงได้ส่งยิ้มไปให้กับเขาด้วย แล้วเขาก็ยิ้มตอบกลับมาด้วยไมตรี  หลังจากบรรยายธรรมเสร็จก็สวดมนต์ชุมนุมเทวดา ทำให้เราขนลุกซู่พอสมควร   พอได้เวลาก็ขึ้นไปที่พักเพื่อพักผ่อน โดยเราก็อาบน้ำอาบท่าแล้วก็นอน แต่ช่วงแรกนอนไม่ค่อยหลับ คงเป็นเพราะต่างที่นอนก็นอนพักไปประมาณ 30 นาทีได้ถึงจะหลับ

          เช้ามืดรุ่งขึ้น 4.40 น. ตื่นขึ้นแล้วลงไปสวดมนต์ทำวัตรเช้า แล้วก็กินข้าวช่วง 7 โมงเช้า วันนี้มีงานใหญ่ ทางเสถียรฯ เลยมีข้าวต้มข้าวกล้องใส่เห็ด ใส่ฟักทอง ให้กินแล้วไม่ต้องใช้จานของตัวเอง อาหารรสชาติดีมากๆ กินไป 2 ถ้วยเลย
          เวลา 8.30 น. พระอาจารย์มาถึงสถานที่แห่งนี้โดยท่านกล่าวให้พร แล้วพวกเราก็กล่าวรับเป็นภาษาพม่า สาธุ” 9 ครั้ง   พิธีการก็เริ่มขึ้นโดยแม่ชีศันสนีย์ ยกยอดฉัตรที่ตั้งอยู่ชั้น 1 เดินรอบๆ เสถียรฯ แล้วขึ้นสู่อาคารชั้น 3 เพื่อไปทำพิธีกรรมด้านบนอีกครั้งหนึ่ง โดยมีการใส่ของมีค่าและรูปพระต่างๆ ไว้ในยอดฉัตรแล้วนำขึ้นไปประกอบบนฉัตรอีกครั้ง   หลังจากนั้นก็มีการสวดเพื่อให้พิธีการครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี  ก็นับว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เราได้ร่วมพิธีกรรมครั้งนี้ เพื่อให้ชีวิตมีบุญกุศลสูงสุดเหมือนยอดฉัตร
          เวลา 11.00 น. ลงมาจากด้านบนเพื่อกินข้าวเที่ยง  อาหารเยอะมากมาย บรรยากาศก็วุ่นวายนิดหน่อย คล้ายๆ กับงานฉลองวัดทั่วไปที่เราเคยไป เราก็นั่งดูผู้คนเดินไปเดินมา แล้วก็ลองซื้อ น้ำสัปะรดกับใบสะระแหน่ปั่น มานั่งดื่มก็สร้างความสดชื่นให้กับตัวเองได้ดีเหมือนกัน
          ช่วงบ่าย ยินดีกับคนที่ได้รับรางวัล ตาราอวอร์ด”  แล้วไปเดินจงกลม หลังจากนั้นไปนั่งฟังธรรมบรรยายอีกครั้ง  คำพูดที่ชอบคือ  “ปัจจุบันสำคัญที่สุด”   ช่วงค่ำทำวัตรเย็น บนยอดตึกอีกครั้งได้นั่งดูพระอาทิตย์อัสดง บนยอดตึก  3 ชั้นแห่งนี้  ตอนค่ำก่อนเข้านอนได้ถามแม่ชีว่า ความหมายของคำว่า บุญใหญ่ คืออะไร?”  แม่ชีตอบว่า คือการให้อภัยตนเอง แล้วทำคนรอบข้างให้มีความสุขที่สุด” 
          วันที่สามของการปฏิบัติธรรม ตื่นไม่ทันพวกเขาไปโยคะสมาธิตอนเช้า แต่ก็ทันกินข้าวเช้า แล้วเข้าร่วมกิจกรรมการถ่ายทอดสดวิทยุ บางเขน AM 1107 KHz และ internet ยามเช้า 9.00 น. ของทุกวันอาทิตย์  แม่ชีศันสนีย์ลงมาบรรยายธรรมด้วยตนเอง แล้วกล่าวถึงงานเมื่อวานว่า การยกยอดฉัตร เป็นอุบายที่มีมาแต่โบราณ ที่จะทำให้สาวกหรือประชาชนมีสามัคคีธรรม ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานนี้ให้สำเร็จ เพราะหากไม่มีความสามัคคีแล้วนั้น การงานทุกอย่างก็คงไม่สำเร็จ   (เป็นการเฉลยคำถามที่คาใจเราในวันแรกได้เป็นอย่างดี)  
ยอดฉัตรทำจากทอง   ซึ่งแม่ชีได้สอน คำ 3 คำ คือ GOLD  GOAL GO 
GOLD ที่แปลว่าทอง นั้นเป็นของมีค่าที่คนนำมาให้ต้องเสียสละ
GOAL เป็นเป้าหมายที่วางไว้ว่างานที่คนเสียสละด้วยกำลังกาย กำลังทรัพย์ใดๆ นั้นต้องสำเร็จ
GO  แล้วพวกเราก็ Let’s GO.  เพื่อเดินหน้าทำงานต่อ
เพราะหากพวกเราจมอยู่กับ GOLD ที่เป็นว่าทองเพียงอย่างเดียว เราจะหลงและปลื้มมันไปในทางที่ผิดแต่ถ้าเรารู้จักใช้แล้วมุ่งมั่นกับงานที่จะเกิดขึ้นมันก็จะสำเร็จได้เป็นอย่างดี  หลังจากท่านบรรยายเสร็จท่านก็ขอตัวเดินทางไปสนามบิน เพื่อจะเดินทางไปประเทศอินเดียในการยกยอดฉัตรที่ประเทศอินเดียอีกครั้งหนึ่ง

          กิจกรรมสุดท้ายที่เราเข้าร่วม คือ การบรรยายธรรมของแม่ชีโอ๊ะ  เป็นแม่ชีรุ่นใหม่ ที่สอนให้เข้าใจชีวิต แล้วใช้ video present ต่างๆ ที่มีอยู่มานำเสนอได้อย่างชัดเจน แล้ว ก็ให้พวกเรามีความสุขเล็กๆ ด้วยการนวดคนข้างหน้า แล้วก็ให้เขานวดเรากลับด้วยอีกทีหนึ่ง พร้อมกับนั่งสมาธิโดยการใช้เพลง ดั่งดอกไม้บาน   ทำให้ใจเราสงบเย็นแล้วเป็นการยืดเส้นยืดสายที่ดีมากอย่างหนึ่ง
จบเที่ยง เราก็ลงทะเบียนออกแล้วเขียนใบประเมินเป็นที่เรียบร้อย  ซึ่งในรอบนี้มีผู้ชายเพียง 4 คนเท่านั้น
ขอบคุณทุกท่านที่ทำให้ผมได้มาในครั้งนี้  ซึ่งเราเองก็ตั้งใจมานานแล้ว ตั้งแต่ที่ได้รู้จักเสถียรธรรมสถานแล้วเคยส่งพนักงานที่เราดูแลให้เขาได้มาฝึกปฏิบัติธรรมมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว  มาครั้งนี้เราเองก็สัมผัสแล้วฝึกด้วยตนเอง ซึ่งเราก็สัญญาว่าจะนำไปฝึกต่อที่บ้านเท่าที่เราจะทำได้ เพราะเป็นการตั้งสติให้กับตัวเรา และบุคคลรอบข้าง

2557/02/03

ภาวนากับความรัก 14-16 กุมภาพันธ์นี้

ขอร่วมโปรโมทกิจกรรมดีๆ ของเสถียรธรรมสถานครับ



มาฆบูชา มาจากภาษาบาลีว่า มาฆปูรณมีปูชา แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า การบูชาในวันเพ็ญเดือนสาม ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี
วันมาฆบูชา ที่เวียนมาถึงนี้ เตือนให้พวกเราเหล่าพุทธศาสนิกชนได้ระลึกว่า แม้สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จดับขันธปรินิพพานไปนานแล้ว ทว่าเหล่าสาวกสาวิกายังคงทำหน้าที่ศึกษา สืบทอด เผยแผ่ และส่งผ่านพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์อย่างมุ่งมั่นและเข้มแข็ง ให้พวกเราได้เรียนรู้และยึดเป็นแนวทางในการปฏิบัติตัว ปฏิบัติใจ พวกเราจึงควรพร้อมใจกันปฏิบัติบูชาโดยการทำตัวเราให้เป็นสาวกสาวิกาของพระผู้มีพระภาคเจ้า ที่ได้นำคำสอน คือ 'โอวาทปาฏิโมกข์' ที่พระพุทธองค์ได้ทรงให้ไว้ในวันนั้น คือ ละอกุศลทั้งปวง...ทรงสอนให้รู้จักรักเพื่อนร่วมโลก ทำกุศลให้ถึงพร้อม...ทรงสอนให้รู้จักรักเพื่อนร่วมโลกและรักตนเอง และ รักษาใจให้ขาวรอบ...ทรงสอนให้รู้จักรักตนเอง ดำรงชีวิตอยู่อย่างผู้ที่ได้โอกาสนั้น และใช้โอกาสนั้นให้เป็นไปเพื่อตนเองและผู้อื่น และเป็นคนที่มีความเต็มเปี่ยมที่จะดำรงชีวิตอยู่ในสังคมของโลกใบนี้อย่างกตัญญูต่อพระพุทธองค์อย่างแท้จริง
เนื่องจาก 'โอวาทปาฏิโมกข์' ที่ทรงแสดงในวันนั้นเป็นหลักธรรมที่ว่าด้วยความรัก จึงกล่าวได้ว่า วันมาฆบูชา เป็น วันแห่งความรักในทางพระพุทธศาสนา อย่างแท้จริง
และในปี 2557 นี้ วันมาฆบูชา ตรงกับวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ วันอันเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายว่าเป็น 'วันวาเลนไทน์'...วันแห่งความรัก
เสถียรธรรมสถาน ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมปฏิบัติธรรมอานาปานสติภาวนา...และมา 'ภาวนากับความรัก' เนื่องในวันมาฆบูชา...วันแห่งความรักทั้งทางธรรมและทางโลก ระหว่างวันที่ 14 - 16 กุมภาพันธ์ 2557 โดยร่วมทำบุญ...ตักบาตร...ปฏิบัติธรรม....เวียนเทียน...เพื่อการทำความดี ละเว้นความชั่ว และรักษาใจให้บริสุทธิ์และขาวรอบ
สนใจ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 02-519-1119
พระอารยตารามหาโพธิสัตว์ ทรงเป็นแสงสว่างแห่งความรัก...ทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความดีที่มีการกระทำด้วยจิตที่หลุดพ้น...ทรงมีความกรุณาและปัญญาพร้อมที่จะช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว...และทรงได้รับการบูชาอย่างยิ่งในเรื่องความสามารถเอาชนะสถานการณ์ที่ยากลำบาก พระองค์ทรงไม่เคยปฏิเสธที่จะให้การช่วยเหลือ หากเราใช้คุณธรรม 8 ประการของพระองค์ อันได้แก่...ไม่มีความถือตัวอวดดี...ไม่มีความโง่เขลา...ไม่มีความอาฆาตพยาบาททั้งปวง...ไม่มีความอิจฉาริษยา...ไม่มีความคิดเห็นที่ผิด...ไม่มีความโลภ...ไม่มีความยึดมั่นถือมั่น...และไม่มีความยึดติด ความเคลือบแคลงสงสัยทั้งปวง...มาอาบรดใจ...
เราจะเป็นหนึ่งที่พบปาฏิหาริย์แห่งการเปลี่ยนแปลง





2557/01/03

HAPPY NEW YEAR 2014 กับ SMURF 2


เริ่มต้นปี 2557  ผมก็ขอแนะนำหนังดีๆ ที่เป็นกึ่งๆ การ์ตูน คือ SMURF 2
ให้ลองไปหาซื้อแผ่นแท้ (VCD, DVD) มานั่งชมกันที่บ้านกับลูกๆ หลานในบ้าน
ข้อคิดตอนจบของหนัง.. ที่ ปะป๋าเสมิรช์ กล่าวคือ
"คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่คนเราเลือกที่จะดำเนินชีวิตได้"


ในโอกาสขึ้นปีใหม่ ก็ขอให้ทุกท่านที่ได้อ่านบทความนี้
จงมีความสุขใจ สุขกาย และร่ำรวยเงินทองกันถ้วนหน้า