ภาพลักษณ์ของท่านพุทธทาส เป็นภาพลักษณ์หนึ่งที่ผมเคารพนับถือท่าน และทำให้ผมเปิดกว้างในมุมมองของศาสนามากขึ้น ผมเพิ่งได้ยิน หรือรู้จักท่านขณะที่ผมเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ขณะนั้นได้ทำกิจกรรมนักศึกษาและเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ ทำให้ได้รู้จักท่านพุทธทาส คำสอนแรกที่ผมได้รับฟังและประทับใจมากๆ ก็คือ
คำว่า ตัวกู ของกู จะทำให้เรายึดติดและเห็นแก่ตัว ซึ่งถ้ามองเป็นภาษาอังกฤษ ตัวกู ก็คือ “I” หากเราต้องการทำลายตัวกูของกู ก็ให้เอาไม้มาทิ่มแทงทะลุไปซึ่งตัวไอ นี้ก็จะกลายเป็นรูปไม้กางเขน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทางคริสต์ศาสนา ดังนั้นการเป็นคนดีก็จะต้องทำลายตัวกู ของกู และไม่ยึดติด ไม่เห็นแก่ตัว พร้อมที่จะแบ่งปัน เสียสละให้ผู้อื่น ก็จะทำให้สังคมนั้นเป็นสุข เป็นคนดีด้วยกันทั้งนั้น
หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสลงไปที่สวนโมกข์ กับเพื่อนในช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเดือนของท่านพุทธทาส ก่อนที่จะถึงวันระลึกท่านพุทธทาส วันที่ 27 พฤษภาคม พวกผมได้มีโอกาสไปนอนค้างคืนที่สวนโมกข์ และทานข้าวที่โรงทานแถวนั้นด้วย แม้จะเป็นเพียงเวลาแค่หนึ่งคืน แต่ก็สร้างความประทับใจให้กับผมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งคำสอนต่างๆ ที่ท่านให้ไว้และช่วงที่ท่านมีชีวิตอยู่ ท่านสอนไว้ว่า เมื่อถึงวันคล้ายวันเกิดของท่านแล้ว สาธุชนไม่ต้องนำของ หรือของขวัญมาถวายให้กับท่าน ท่านพุทธทาส ขอเพียงแต่ว่าให้คนผู้นั้นอดอาหาร และระลึกถึงท่าน ท่านบอกว่าเมื่อเราอดอาหารแล้วเราก็จะได้เข้าใจคนที่ไม่มีจะกินว่าเขาลำบากอย่างไร รู้สึกอย่างไร เพื่อให้เราจะได้รู้จักแบ่งปันคนอื่น และไม่กินอาหารเหลือทิ้งอันจะทำให้เสียของไปอีกด้วยซ้ำ
ผมมาพิจารณาในคำสอนของท่านในเรื่องการอดอาหารเพื่อระลึกถึงท่านพุทธทาส นี้เป็นการให้คำสอนที่ล้ำลึกมากๆ เลยครับ เป็นคำสอนที่เน้นการลดภาวะโลกร้อนได้ดีเยี่ยมมากๆ เพราะว่าคนไม่ต้องซื้อของมาให้ท่าน และลดการบริโภคลงอีกด้วยซ้ำเป็นการสอนให้คนรู้จักตัวเอง รู้จักอารมณ์ของตนเองเมื่อหิว จะได้รู้จักคุณค่าของอาหารหรือสิ่งที่คนเรากินเข้าไปด้วย
และนี้ก็เป็นความเชื่อ ความศรัทธา และเหตุการณ์ต่างๆ ที่หล่อหลอม และทำให้ผมไม่ยึดติดกับรูปแบบพิธีกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เชื่อมั่นและศรัทธาในความดี ความเป็นธรรมชาติของศาสนาพุทธ และศาสนาคริสต์ที่ผมนับถือมาตั้งแต่แรกเกิด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น