2554/08/31

บุญถาวร... ตำนาน Tile EXPO

กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ..สำหรับงาน EXPO ของบุญถาวร ที่ในแต่ละปีจะมีการจัดมหกรรม กระเบื้องราคาพิเศษ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้า และนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ให้กับตลาด และวงการกระเบื้องเซรามิึึค และทีพิเศษสำหรับปีนี้ได้จัดกิจกรรมเสริมความรู้ และนำเสนอนวัตกรรมใหม่สู่ท้องตลาดอีกด้วย


กิจกรรมที่ว่า คือ Innovative Architectural Material Expo (I AM)
จัดที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต์ ในวันที่ 10 ก.ย.54 ประโยชน์ที่ลูกค้ากลุ่มสายอาชีพจะได้รับ ไม่ว่าจะเป็นการ Update นวัตกรรมใหม่ๆ ของสินค้าตกแต่งบ้าน วัสดุก่อสร้าง พร้อมทั้งเป็นการจุดประกายความคิดทางด้านการเลือกสรรวัสดุก่อสร้างแลกเปลี่ยน Connection กันระหว่างผู้ประกอบการ และลูกค้าในแต่ละสาขาอาชีพ การออกแบบสถาปัตยกรรม และการออกแบบตกแต่งภายในให้แก่ลูกค้าในกลุ่มสายอาชีพ รวมถึงเป็นโอกาสแก่ผู้ผลิตสินค้าที่จะมีพื้นที่แสดงสินค้าที่มีกลุ่มเป้าหมายหลักเข้ามารวมชมอย่างคับคั่ง นอกจากการแสดงสินค้าแล้วบุญถาวรก็ยังได้จัดงานสัมมนาขึ้นในวันเดียวกัน โดยมีการเชิญเหล่ากูรูที่มีความรู้ด้านการออกแบบ ตกแต่งบ้าน อาทิ อมตะ หลูไพบูลย์, ทวิตีย์ วัชราภัย, มนู ตระกูลวัฒนะกิจ มาร่วม Update ความรู้อีกด้วย


2554/08/30

ย้อนรอยเส้นทางราคาทองคำโลก History Gold Price


ย้อนรอยเส้นทางราคาทองคำโลก
แต่ประวัติศาสตร์บอกเราว่า ราคาทองคำตลาดโลกเคลื่อนไหวในช่วงขาขึ้นมาโดยตลอดนับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ประกาศยกเลิกการตรึงสกุลเงินดอลลาร์กับมาตรฐานทองคำในปีพ.ศ. 2514 ตามข้อตกลงแบรทตัน วูดส์ ..ต่อไปนี้เป็นเส้นทางราคาทองคำตลาดโลกที่จะพาท่านย้อนรอยหาสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังการพุ่งขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ของราคาทอง

- ส.ค. 2514 : หลังจากอดีตประธานาธิบดีนิกสัน ประกาศยกเลิกการตรึงสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกับมาตรฐานทองคำแล้ว ราคาทองคำตลาดโลกเคลื่อนไหวอยู่ที่ 35 ดอลลาร์/ออนซ์

- ม.ค. 2523 : ราคาทองพุ่งทำนิวไฮที่ 850 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากสหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอัฟกานิสถาน และผลกระทบจากการปฏิวัติอิหร่านทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทอง ... หลังจากนั้นในปี 2546 ราคาทองพุ่งขึ้นโดยตลอดเนื่องจากสงครามอิรัก

- 13 มี.ค. 2551 : ราคาทองทะยานขึ้นเหนือ 1,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก
- 17 ก.ย. 2551 : ราคาทองพุ่งขึ้นเกือบ 90 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในวันเดียว ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากเกิดภาวะผันผวนในตลาดหุ้นและตลาดการเงิน ทำให้เกิดแรงซื้ออย่างท่วมท้นในตลาดทองคำ

- 1 ธ.ค. 2552 : ราคาทองพุ่งเหนือ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์เป็นครั้งแรก หลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง

- 3 ธ.ค. 2552 : ทองทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,226.10 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากปัจจัยเดิมคือดอลลาร์อ่อนค่า และกระแสคาดการณ์ธนาคารกลางทั่วโลกเพิ่มการถือครองทองคำ

- 11 พ.ค. 2553 : ราคาทองพุ่งทำสถิติครั้งใหม่ที่ 1,230 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ในยูโรโซน

- 16-22 ก.ย. 2553 : ราคาทองขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นเวลา 5 วันติดต่อกัน โดยแตะจุดสูงสุดที่ 1,296.10 ดอลลาร์ หลังธนาคารกลางสหรัฐประกาศใช้มาตรการ QE2 ซึ่งจุดปะทุให้เกิดความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ

- 7 ต.ค. 2553 - ราคาพุ่งขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่เหนือ 1,360 ดอลลาร์/ออนซ์ จากกระแสคาดเฟดจะตรึงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกนาน ซึ่งข่าวดังกล่าวฉุดค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนัก

- 7 ธ.ค. 2553 : ทองทะยานขึ้นทำสถิตินิวไฮครั้งใหม่ที่ 1,425 ดอลลาร์/ออนซ์ จากวิกฤติหนี้ยูโรโซน

- 24 มี.ค. 2554 : ราคาทองพุ่งชนนิวไฮครั้งใหม่ที่ 1,447 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น

- 25 เม.ย. 2554 : ทองคำทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,517.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากเหตุการณ์ไม่สงบในตะวันออกกลาง และการอ่อนค่าของดอลลาร์
- 30 ส.ค. 2554 : ขึ้นลงผันผวน อยู่ที่ 1,790 ดอลลาร์/ออนซ์

วลีเก่าแก่ที่ว่า "มีเงินเขาเรียกว่าน้อง มีทองเขาเรียกว่าพี่" ยังคงใช้ได้ดีกับยุคนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่าทองคำล้ำค่าอมตะยิ่งกว่าเพชรนิลจินดาชนิดใด และมีมูลค่าที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนอาจสูงถึง 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ตามคำทำนายของจิม โรเจอร์ส


2554/08/26

โรค "มือ เท้า ปาก"พันธุ์ใหม่


เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวภายหลังประชุมร่วมกับผู้แทนกรมควบคุมโรค กรมการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อเฝ้าระวังการระบาดของโรคมือ เท้า ปากในเด็กเล็กว่า ปีนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ที่พบผู้เสียชีวิตจากโรคมือ เท้า ปาก โดยเริ่มพบการระบาดของโรคตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย ขณะนี้ถือว่ายังอยู่ในระหว่างขาขึ้นของการระบาด

นพ.สุวรรณชัยแถลงว่า ที่ผ่านมาในประเทศไทยจะพบเชื้อมือ เท้า ปาก ที่เรียกว่าค็อกซากี (Coxsackie) ไวรัสชนิดเอ 16 แต่จากการเฝ้าระวังรอบการระบาดในปี 2554 พบว่ามีเชื้อเอ็นเทอโรไวรัส 71 (Entero Virus 71) หรืออีวี 71 มีความสัมพันธ์กับการทำให้สถานการณ์ของโรคระบาดรุนแรงขึ้น อีกทั้งการระบาดที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป แต่ครั้งนี้พบการระบาดในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ โดย 1 ในผู้เสียชีวิตที่ยืนยันแล้ว อายุเพียง 1 ขวบ 8 เดือน ทั้งนี้ การที่อายุของการระบาดต่ำลงทำให้เกิดความยากลำบากในการดูแล เพราะเด็กเล็กไม่สามารถบอกความผิดปกติได้เท่าเด็กโต ทำให้อาการทรุดหนักและเสี่ยงที่จะเสียชีวิต

"การระบาดที่รุนแรงครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากระบบเฝ้าระวังบกพร่อง แต่เกิดจากลักษณะของเชื้อและความรุนแรงของเชื้อที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งเด็กมีอายุน้อยลง ทำให้ภูมิต้านทานลดลง การควบคุมโรคทำได้ยาก ดังนั้น กรมควบคุมโรคจะสืบประวัติของผู้ป่วยเด็กเล็กที่มีอาการหนักและเสียชีวิตในห้องไอซียู และผู้ป่วยในกลุ่มเสี่ยงย้อนหลัง เช่น มีแผลในปาก มีการเจ็บป่วยในระบบทางเดินหายใจรุนแรง มีอาการชัก เป็นต้น เพื่อเฝ้าระวังต่อไป" นพ.สุวรรณชัยกล่าว

นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า สำหรับเด็กที่เสียชีวิตอีก 3 ราย อยู่ระหว่างรอผลยืนยันจากห้องปฏิบัติการว่าเป็นเชื้ออีวี 71 หรือไม่ ต้องใช้เวลาเป็นเดือน นอกจากนี้ ยังพบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงอีก 1 ราย จึงขอให้ผู้ปกครองเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ผู้สื่อข่าวถามว่า ในต่างประเทศมีการระบาดของโรคนี้หรือไม่ นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า ล่าสุดมีข้อมูลจากประเทศเวียดนามพบผู้ป่วยกว่า 23,000 ราย เสียชีวิตกว่า 80 ราย ซึ่งพบเชื้ออีวี 71 ปะปนอยู่เช่นกัน

ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พญ.ดวงพร อัศวราชันย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาล (รพ.) พระนครศรีอยุธยา และกุมารแพทย์ รพ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พบผู้ป่วยมือเท้าปากส่วนใหญ่เป็นเด็ก เฉพาะในเดือนกรกฎาคมพบผู้ป่วยที่ รพ.จำนวน 39 ราย และเดือนสิงหาคมนี้มีเด็กป่วยแล้วจำนวน 20 ราย ซึ่งผู้ป่วยทั้งหมดเป็นโรคมือเท้าปากในกลุ่มของเชื้อชนิดเดิมคือเชื้อไวรัสค็อกซากี แต่ยังไม่พบกลุ่มของโรคมือเท้าปากที่เป็นเชื้อชนิดใหม่

"โรคมือเท้าปากจะติดจากสารคัดหลั่งในระบบทางเดินอาหาร เช่น น้ำลาย โดยเฉพาะเด็กจะติดโรคได้ง่าย เนื่องจากมืออาจจะไปสัมผัสโดนเชื้อ แล้วหยิบจับอาหารเข้าปาก ส่วนใหญ่จะติดเชื้อจากที่โรงเรียน เพราะเป็นที่รวมของเด็กๆ พ่อแม่ต้องเฝ้าดูอาการของลูกๆ ซึ่งอาการของโรคมือเท้าปากในกลุ่มเชื้อไวรัสค็อกซากี จะมีไข้ต่ำต่อเนื่อง เบื่ออาหาร มีเม็ดตุ่มขึ้นในลำคอและตามข้อพับมือเท้าและที่สำคัญคือจะมีน้ำลายไหลต่อเนื่อง หากลูกๆ มีอาการดังกล่าวให้สงสัยว่าเป็นโรคนี้และรีบพบแพทย์เพื่อรักษา แต่หากเป็นโรคมือเท้าปากชนิดใหม่จะแสดงอาการเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีไข้สูงขึ้นและอาจชักหรือหัวใจวายเฉียบพลันได้ ถือว่าอันตรายมากหากพบแพทย์ไม่ทัน ทั้งนี้ โรคมือเท้าปากระบาดไม่เกี่ยวกับภาวะน้ำท่วม" พญ.ดวงพรกล่าว
ที่มา : มติชน 26 ส.ค.54

2554/08/17

กฎแห่งแรงดึงดูด นำมาใช้ให้ถูกทาง

“กฎแห่งแรงดึงดูด” (Law of Attraction) มีในหนังสือที่ขายดีมากๆ อยู่เล่มหนึ่ง ชื่อว่า “The Secret” เขียนโดย Rhonda Byrne ซึ่งเป็นสตรีชาวออสเตรเลีย และได้รับการแปลเป็นภาษาไทย โดยกวีซีไร้ท์ คุณจิระนันท์ พิตรปรีชา จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์อัมรินทร์ฯ ได้ยินว่าในฉบับภาษาไทยนั้น จำหน่ายไปแล้วราวหนึ่งแสนเล่ม เพียงชั่วระยะเวลาเพียงสองเดือน จนหนังสือขาดตลาด พิมพ์ใหม่แทบจะไม่ทัน
เนื้อหาหลักของหนังสือเล่มนี้ นำเสนอเรื่อง “กฎแห่งแรงดึงดูด” (Law of Attraction) อย่างชนิดเนื้อๆ และล้วนๆ ซึ่งต้องนับถือความเก่งของคนเขียนที่เขียนหนังสือเล่มนี้ ได้น่าอ่าน เพลิดเพลิน เร้าใจ กระชับ และต้องยกนิ้วให้ทีมงานของเขาที่ทำการตลาดให้กับหนังสือเล่มนี้ได้อย่างยอด เยี่ยม จนมียอดขายชนิดถล่มทะลายไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่เมืองไทยที่เคยมีผลสำรวจว่า โดยเฉลี่ยคนไทยอ่านหนังสือกันปีละไม่เกิน 7 บรรทัดเท่านั้น!

จริงๆ แล้ว “กฎแห่งแรงดึงดูด” นี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ประการใด เคยมีผู้เขียนหนังสือว่าด้วยเรื่องนี้ไว้เป็นการเฉพาะหลายต่อหลายเล่มแล้วใน รอบร้อยปี หรือสิบปีที่ผ่านมา ยังไม่นับที่มีการอ้างอิงถึงกฎนี้ หรือหลักการนี้ไว้ตรงโน้นตรงนี้ในหนังสืออีกหลายต่อหลายเล่ม และถ้าจะพูดกันให้ถึงที่สุดแล้ว “กฎแห่งแรงดึงดูด” นี้ มันก็คือกฎแห่งธรรมชาติ หรือกฎแห่งจักรวาล ซึ่งอยู่คู่โลกและอยู่คู่กับมวลมนุษยชาติมานับเป็นพันๆ ปี หรือนับตั้งแต่มีมนุษย์เกิดขึ้นมาบนโลกแล้วก็ว่าได้ ถ้าโลกนี้ หรือจักรวาลนี้มีกฎว่าด้วยแรงโน้มถ่วง (LAW OF GRAVITY) กฎแห่งแรงดึงดูดนี้ก็เป็นกฎที่เป็นจริงอย่างนั้นเหมือนกัน และถ้าโลกนี้ หรือจักรวาลนี้มีกฎว่าด้วยกฎแห่งกรรม หรือกฎแห่งการกระทำ หรือที่พระท่านบอกว่า “อิทัปปัจยตา” แล้ว กฎแห่งแรงดึงดูดนี้ ก็เป็นจริงอย่างนั้นด้วยเช่นเดียวกัน

Law Of Attraction ได้ ในความคิดที่สมองเราประมวลออกจะจำแนกได้ 5 ข้อหลักๆ ก็สามารถสร้าง "กฎแรงดึงดูด" ได้
1) State your intention
2) Write down your intention , so you don't forget in order to remimd you of your goals.
3) Create your reality in your mind
4) Act as if it has already happened
5) Take some action !!

ดูแล้วพิจารณา และใช้เวลากับเรื่องนี้ นานหน่อยนะถ้าต้องการ



2554/08/04

ร่วมสนับสนุน หนังไทย... คนโขน




เรื่องของคน เรื่องของโขนนี้เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2508

โดยเล่าเรื่องราวของ ชาด (อภิญญา รุ่งพิทักษ์มานะ) เด็กกำพร้าที่ถูกครูโขนฝีมือดีอย่าง ครูหยด (สรพงษ์ ชาตรี) เลี้ยงดูและฝึกหัดโขนให้ตั้งแต่เล็กๆ จนกระทั่งเติบใหญ่มีฝีไม้ลายมือเก่งกาจกลายเป็นศิษย์เอกในคณะโขนของครูหยด อีกทั้งชาดยังได้รับความช่วยเหลือและกำลังใจที่ดีเสมอมาจากเพื่อนรักอย่าง ตือ (กองทุน พงษ์พัฒนะ) และ แรม (นันทรัตน์ ชาวราษฎร์) ที่สนิทสนมรักใคร่ผูกพันกันมาตั้งแต่วัยเด็ก
ด้านครูหยดก็ได้มองเห็นแววที่จะเอาดีทางด้านนี้ของชาด และคิดจะเปิดตัวชาดในบทพระรามเป็นครั้งแรกในงานแสดงโขนประจำปีครั้งใหญ่ที่วัดอ่างทอง
เส้นทางชีวิตของชาดดูเหมือนจะไร้ซึ่งอุปสรรคในการก้าวตามความฝัน เพื่อมุ่งสู่จุดสูงสุดของชีวิตนักแสดงโขนตามความทะยานอยากในวัยหนุ่มของเขา

แต่เมื่อ ครูเสก (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) อดีตเพื่อนรักของครูหยด ที่ปัจจุบันกลายมาเป็นศัตรูตัวฉกาจด้วยปมแค้นฝังลึก ได้รับรู้เรื่องการแสดงของคณะครูหยด จึงหาวิธีกลั่นแกล้งไม่ให้ครูหยดได้แสดงโขนที่วัดนี้ ซึ่งก็เข้าทางหลานชายสายเลือดโขนของครูเสกอย่าง คม (ขจรพงศ์ พรพิสุทธิ์) คู่อริเก่าของชาดที่ต้องการแก้แค้นและเอาคืนชาดอย่างสาสมเช่นกัน

บางครั้งเราก็ต้องพบกับฝันร้ายโดยไม่รู้ตัว...

เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เมื่อปัญหาที่ถาโถมเข้ามาหาครูหยดและชาดนั้นไม่ใช่แค่มายาแห่งนาฏกรรมโขนอันเกิดมาจากความอาฆาตแค้นไม่สิ้นสุดของครูเสกและคมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ชาดยังหลงเข้าไปในวังวนแห่งตัณหาราคะที่ก่อเกิดจาก รำไพ (พิมลรัตน์ พิศลยบุตร) เมียรุ่นลูกของครูหยดที่จ้องจะเข้าหาชาดทุกครั้งที่มีโอกาส รวมทั้งมิตรภาพระหว่างเพื่อนรักอย่างชาด, แรม และตือที่ถูกสั่นคลอนลงอย่างไม่คาดฝัน นั่นเป็นเหตุให้ชีวิตของชาดซวนเซและพลิกผันไปอย่างไม่ทันตั้งตัว

ฉากสุดท้ายของชาดจะสามารถกลับลำและไปถึงฝั่งฝันได้หรือไม่ ถึงเวลาที่ชาดจะต้องต่อสู้เอาชนะด้านมืดของตัวเอง และพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ หาใช่หัวโขนที่สวมใส่

2554/08/03

เพลงละครเจ้าพ่อเซียงไฮ้ ทำไมคนถึงจำติงลี่ได้



เพลง
Even if there's no future(就算没有明天)-Huang Xiao-ming(黄晓明)

Pinyin(Part 1.) Yong yuan you duo yuan. Wo xin yi pi juan. Zhi tan yuan fen tai qian. Meng bu neng yuan. Zai yong bao

yi bian. Na pa shi shun jian. Ting ge de hua mian. Neng bu neng,di kang si nian. Wo men zhi jian. Hui bu hui you ming

tian. Chi re de chan mian. Neng fou chong xin shang yan.

Pinyin(Part 2.) Jiu suan tian yi bian. Cang hai cheng sang tian. Na xie shi yan. Hai zai ren shi liu lian. Wo men zhi jian.

Jiu suan mei you ming tian. Hui yi zai ming xian. Zhong jiu xiao san cheng yun yan. Yong qing chun rong yan. Qu jiao

huan ai lian. Wo ye qing yuan. Wu hui wu yuan.

Pinyin(Part 3.) Yong yuan you duo yuan. Wo xin yi pi juan. Zhi tan yuan fen tai qian. Meng bu neng yuan. Zai yong bao

yi bian. Na pa shi shun jian. Ting ge de hua mian. Neng bu neng,di kang si nian. Wo men zhi jian. Hui bu hui you ming

tian. Chi re de chan mian. Neng fou chong xin shang yan.

Pinyin(Part 4.) Jiu suan tian yi bian. Cang hai cheng sang tian. Na xie shi yan. Hai zai ren shi liu lian. Wo men zhi jian.

Jiu suan mei you ming tian. Hui yi zai ming xian. Zhong jiu xiao san cheng yun yan. Yong qing chun rong yan. Qu jiao

huan ai lian. Wo ye qing yuan. Wo men zhi jian. Hui bu hui you ming tian.

****************************************
เกริ่นไว้ด้านบน เพราะว่า ติงลี่ ไม่ใช่พระเอก
แต่เป็นตัวเอก..ที่รู้จักชีวิต และซื่อสัตย์ กตัญญูต่อแม่ และเข้าใจเพืื่อน พร้อมกับมีความรักที่มั่นคงต่อนางเอก

****************************************

歌词
  孙:永远有多远 我心已疲倦
  只叹缘分 太浅 梦不能圆
  黄:再拥抱一遍 哪怕是瞬间
  停格的画面 能不能 抵抗思念
  孙:我们之间会不会有明天
  炽热的缠绵 能否重新上演
  就算天意变 沧海成桑田
  那些誓言 还在人世流连
  黄:我们之间就算没有明天
  回忆再明显 终究消散成云烟
  用青春容颜 去交换爱恋
  我也情愿
  合:我们之间会不会有明天
  黄:炽热的缠绵 能否(孙:ha..)
  合:重新上演 就算天意变
  黄:沧海成桑田 那些誓言
  合:还在人世流连
  合:我们之间就算没有明天
  黄:回忆再明显 终究(孙:ha...)
  合:消散成云烟
  黄:用青春容颜 去交换爱恋
  我也情愿
  孙:我也情愿
  合:无悔无怨

บำรุงยาจีน เพื่อสุขภาพ






แผนที่้ คลิ๊กเลย
ร้านท่งเต็กฮวด ตั้งอยู่บนถ.พระราม 4 เวลาเปิด 8.00 -20.00 น.
เดินทางสะดวกด้วยรถเมล์หลายสาย และรถไฟฟ้าใต้ดิน ก็ลงที่สถานีหัวลำโพง

มีหมอจีนคอยแมะ ตรวจชีพจรด้วย.. ราคาย่อมเยา

ยาจีน ทุกขนาน ระหว่างที่รับประทานยาจีนอยู่ ให้งดรับประทานอาหารที่จะไปล้างยาจีน ทำให้ยาหมดฤทธิ์ คือ หัวผักกาด ผักกาดขาว ผักบุ้ง ผักกระเฉด หน่อไม้ทุกชนิด ฟัก แฟง แตงโม แตงกวา สัปปะรด มะรุม มิฉะนั้นแล้ว ยาจีนที่รับประทานเข้าไป ก็จะเสื่อมฤทธิ์ ไม่มีประโยชน์อย่างไรเลย

วิธีต้มยาจีน
ยา ๑ ห่อ (๑ ชุด) ทุกขนาน ถ้าบอกว่าให้ต้ม ๒ ครั้ง หรือ ๓ ครั้ง ก็ให้เก็บน้ำยาที่ต้มได้ตามกำหนดนั้นเอามารวมกัน แบ่งรับประทานวันละ ๒ หรือ ๓ ครั้ง ตามกำหนดให้รับประทาน ทั้งนี้เพื่อให้สรรพคุณของยาที่รับประทานมีคุณภาพเท่าเสมอกัน และยาจีนต้องรับประทานในขณะที่ยาร้อนอุ่นๆ อยู่