หาข้อมูลในอินเตอร์เนท ไม่มีก็เลยต้องมานั่งเขียนเอง.. เพื่อให้คนอื่นได้เห็นข้อมูลบ้าง สำหรับการนำโทรศัพท์ไปซ่อมที่ ฟอร์จูน ก็ไม่รู้ว่าราคาถูกหรือแพงอย่างไร แต่โดยส่วนตัวก็คิดว่าโอเค กับการบริการและการซ่อมที่รวดเร็วและแน่นอน
อาการเครื่อง blackberry ปุ่มกดเสียไป 3 ปุ่ม และ memory card error 602 และรับสายก็ติดๆ ดับๆ...
ภายในเปลี่ยนแปลงเยอะมาก.. หลังจากที่เซ็นทรัลพระราม 9 เปิดตัว... ทางห้างนี้จึงต้องมีการปรับเปลี่ยน ซึ่งนัับว่าเป็นการปรับเปลี่ยนที่ดี และมีิทิศทางการตลาดที่ชัดเจนมากอีกห้างหนึ่ง
ร้านที่เราจะนำไปซ่อม อยู่ตรงช่วงบันไดเลื่อนตรงกลาง ซึ่งเดินจากศูนย์อาหารชั้น 1 ขึ้นมานั้่นเอง.. มองซ้ายมองขวา... เดินหาดูประมาณ 3-4 ร้าน ก็ตัดสินใจเขาไปซ่อมกับร้านที่อยู่ช่วงกลาง ระหว่างบันไดเลื่อนทั้งสองข้างพอดี
เจ้าของเคาน์เตอร์เป็นเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง กำลังซ่อม IPHONE อยู่.. เราก็เดินเข้าไปถามว่าซ่อมบีบี ไหม.. อาการประมาณนี้ๆ เขาบอกว่าต้องลงโปรแกรมใหม่ ข้อมูลจะหายหมดเลยนะ.. และต้องเปลี่ยนแผงปุ่มภายใน และ ic ด้วย พร้อมกับการทำความสะอาดเครื่องให้ ค่าบริการทั้งหมด 900 บาท (ไม่แน่ใจว่าถูกหรือ แพง แต่เห็นมีคนบอกว่าแถวบางกะปิ จะถูกกว่านี้ แต่เราก็ขี้เกียจแหล่ะ..)
เราก็ตอบตกลงไป และใช้เวลาซ่อมไม่นาน ประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ได้ บีบี กลับมาในสภาพที่ใช้งานได้ดี แต่ก็ให้เจ้าของเคาน์เตอร์ช่วยเขียนการรับประกันการซ่อมให้ด้วย.. เขาก็เขียนให้บนนามบัตร ซึ่งเขาก็บอกว่าถ้ามีอาการเดิม ก็มาคุยกันได้ แต่อย่าตกน้ำ ตกกระแทกนะ.. เพราะถ้าตกน้ำมันก็คงจะรอดยากแน่นอน.. ซึ่งเราก็เข้าใจดี.. (อ๊ะๆ อย่าเพิ่งดีใจไปก่อน โปรดอ่านด้านล่าง ****************)
ก็ประทับใจในการให้บริการ และได้เดินหาซื้อสินค้าหลายอย่างหลังจากที่เราค้นหามานาน นั้นก็คือ แบตเตอรี่มือถือ SONY ซึ่งหาซื้อได้ยากมาก ตรงบริเวณชั้นสอง ที่เป็นศูนย์รวม IT และมือถือ นานาสารพัน ก็มีให้ค้นหา พร้อมกับ adapter ชาร์ตมือถือในรถ ก็มีอยู่มากมายหลายรุ่น
หลังจากหาของได้เสร็จก็ลองเดินสำรวจการเปลี่ยนแปลงของฟอร์จูน ก็พบว่า ชั้น 3 เป็นศูนย์รวมเครื่องดนตรี และที่เรียนดนตรีหลากหลาย.. ได้เดินดูอูคูเลเล่ และซื้อเครื่องตั้งระดับเสียง มาในราคา 370 บาท ซึ่งการใช้งานก็ง่ายดี เหมาะสำหรับมือใหม่ ที่จะเล่นอูคูเลเล่ ได้ลองมาใช้และลองมาเดินหาซื้ออูคูเลเล่ ได้หลากหลายราคา แต่มีตั้งแต่ 1,900 ขึ้นไป นะครับ.. จะหาตัวราคาถูกๆ ก็หาไม่เจอแน่นอน
ส่งท้าย ช่วงเดือนนี้จะมีโปรโมชั่น เกี่ยวกับกล้องดิจิตอลด้วย
CAMERA MY LIFE 26-29 april 2012
เหมาะมากกับสโลแกนที่ว่า ไอที ไลฟ์สไตล์มอลล์ มาที่เดียวครบทุกความต้องการสินค้ายุค gen z หรือ gen i อย่างพวกเรา
********************************************************
วันที่ไปซ่อม คือวันที่ 18/4/55
เมื่อวานวันที่ 25/4/55 อาการของ บีบี ก็กลับมาเป็นอีกเหมือนเดิม ปุ่มค้าง 3 ตัวเหมือนเดิม คือ บ, ฐ ก็ยังคงค้างและใช้งานไม่ได้ เราจึงต้องเอากลับไปให้้ที่ร้านเดิมซ่อม คือ ร้าน MAX TELECOM (ตอนแรกว่าจะไม่เอ่ย ชื่อร้าน แต่ทนไม่ได้แล้ว จึงต้องขอเอ่ยชื่อร้านในที่นี้) เราไป FORTUNE ตอนเย็น ซึ่งคนเอาเครื่องมาซ่อมเยอะมาก เราก็นั่งรอตั้งแต่ 1 ทุ่ม ถึง 3 ทุ่ม ถึงแม้บริการยังดีอยู่..ด้วยน้ำเสียงที่ดี แต่ผลการซ่อมครั้งที่สอง.. ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นแค่การ download apps เพิ่มเติมเท่านั้น โดยตอนอยู่ที่ร้านเราก็เห็นว่าปุ่มมันก็ใช้งานได้ตามปกติ เราก็ถามว่า พี่ถ้ามันเป็นอีกล่ะ จะให้ทำอย่างไร..
เขาก็ตอบมาว่า ดูเหมือนเครื่องจะลงโปรแกรม หรือ upsoftware ไม่สมบูรณ์ เพราะเวลาต่ออินเตอร์เนท ถ้าลงโปรแกรมไม่สมบูรณ์ มันก็จะรวนได้นะค่ะ ซึ่งเราก็บอกไปว่า ถ้ามีอะไรอีก เราจะกลับมาใหม่นะ เพราะเรารู้สึกว่า เราซ่อมบีบี ในราคาที่สูงมาก ดังนั้นควรจะได้ผลลัพธ์ที่ดี อย่างน้อยๆ กระจอกๆ ก็ต้องใช้งานได้ดีเกินกว่า 1 เดือน ขึ้นไป แต่นี้ปรากฎว่า ยังไม่ผ่าน 1 สัปดาห์ดีเลย ก็ต้องกลับเข้ามาซ่อมใหม่
วันนี้เราก็กลับบ้านไปด้วยความเซ็งๆ เพราะรอนานมาก ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง เนื่องจากเขารับซ่อมคนที่เพิ่งเอามาซ่อมโดยเราเห็น คนอื่นจ่ายเงินแค่ 300-400 บาท ต่อเครื่องเท่านั้น.. มันยิ่งทำให้เรารู้สึกเคืองเข้าไปใหญ่ ว่าเราโดนตีหัวหรือเปล่า..ในตอนแรกที่เอามาซ่อม
กลับบ้านไปนอนได้ 1 คืน วันรุ่งขึ้น อาการเดิมกลับมาอีกแล้ว ตอนเช้าเครื่องบีบี ก็ปุ่มค้างอีก ขึ้น "บบบบบบบบฐฐฐฐ" อะไรก็ไม่รู้ เป็นอาการเดิมทุกอย่าง
ทำให้เราไม่รู้ว่า สิ่งที่ผ่านมาเขาซ่อมมันจริงหรือไม่ แต่อาการเดิมมันไม่หาย.. หรือว่าครั้งแรก ทางร้านไม่ได้ซ่อมอะไรในเครื่องเลย แต่แค่ format และลงโปรแกรมใหม่ เท่่านั้น.. ซึ่งมันก็เป็นที่ค้างคาใจเราเป็นอย่างมาก ว่าทำไมซ่อมแล้ว มันใช้งานได้ไม่ถึงสัปดาห์ ก็ต้องกลับมาซ่อมใหม่
ใครมีความเห็นอย่างไรก็ แชร์ มาบ้างก็ได้นะ อยากทราบเหมือนกันว่า ถ้าเราเอาไปซ่อมเป็นครั้งที่ สาม ทางร้านเขาจะว่าอย่างไรกันแน่
โปรดติดตาม....
2/5/55
ไปที่ร้านอีกครั้ง.. ให้ทางร้านซ่อม... และเขาบอกว่าซ่อมอีกครั้งอาการก็อาจจะไม่หาย.. เราก็เลยบอกว่างั้นขายเป็นซากจะได้ราคาเท่าไร.. ทางร้านก็ไม่ยอมรับสินค้าตัวนี้...
สรุปว่าท้ายสุด.. เราก็โดนเขาหลอกให้ซ่อมครั้งแรกไปโดยไม่มีอะไรดีขึ้นมา.. มีแต่เสียเวลากับตัวเองมากกว่า