Slumdog Millionaire
มีโอกาสได้ไปดูหนังโรง ซึ่งเป็นหนังดัดแปลงจากนิยายดังของอินเดีย โดยฝีมือของผู้กำกับอังกฤษ ที่แต่เดิมไม่มีค่ายหนังไหนสนใจจะนำมาฉายในอเมริกาจนเกือบจะต้องออกจำหน่ายเป็นหนังแผ่น ได้สร้างปรากฏการณ์บนเวทีออสการ์ด้วยการคว้ารางวัลใหญ่ไปครองถึง 8 สาขา รวมทั้งสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่คว้าไปอย่างไร้คู่แข่ง ซึ่งเป็นหนังที่สะท้อนความจริง ของสังคม และความฝันของคนด้วยเช่นกัน
หากใครมีโอกาสได้ไปดู หรือคิดว่าจะหนังเป็นแผ่นเก็บไว้สักเรื่อง ก็ดีไม่ใช่น้อย ขอสนับสนุนหนังเรื่องนี้ด้วยอีกแรงใจหนึ่ง
ผลจากที่หนังได้รับรางวัลสำหรับดาราเด็ก
มุมไบ 27 ก.พ.- ดาราเด็กจากภาพยนตร์ “สลัมด็อก มิลเลียนแนร์“ ที่กวาดรางวัลออสการ์ไปถึง 8 สาขา กลับมาใช้ชีวิตในชุมชนแออัดของนครมุมไบ ประเทศอินเดีย ตามเดิม หลังมีโอกาสเหินฟ้าไปสหรัฐ เพื่อร่วมงานประกาศผลออสการ์ที่ฮอลลีวู้ด เมื่อไม่กี่วันก่อน
เด็กชาย อาซารุดดิน อิสมาอิล และเด็กหญิง รูบีนา อาลี สองดาราเด็กจากภาพยนตร์เรื่องดัง ต้องกลับมานอนกลางดินกินกลางทรายเช่นเดิม ในที่พักของพวกเขา ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนแออัดกลางนครมุมไบ โดยเด็กชายอาซารุดดิน นอนอยู่ใต้แผ่นพลาสติกในเพิงที่พักใกล้รางรถไฟ ท่ามกลางกลิ่นปัสสาวะและมูลวัวที่โชยมาเป็นระยะ ส่วนเด็กหญิงรูบีนานอนกับพ่อแม่พี่น้องในเพิงเล็ก ๆ ใกล้ท่อระบายน้ำ
สองหนูน้อยอาศัยอยู่ในชุมชนแออัดแห่งนี้มาตั้งแต่เกิด จนวันหนึ่งได้มีโปรดิวเซอร์หยิบยื่นโอกาสให้มาร่วมแสดงในภาพยนตร์ “สลัมด็อก มิลเลียนแนร์ “ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เติบโตในชุมชนแออัดกลางนครมุมไบ ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก จึงทำให้สองหนูน้อยได้มีโอกาสร่วมเดินทางกับคณะผู้ถ่ายทำภาพยนตร์ไปร่วมงานประกาศผลออสการ์ที่ฮอลลีวู้ด นครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย และนับเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้มีโอกาสขึ้นเครื่องบิน
เด็กหญิงรูบีนา พูดถึงเครื่องบินว่า ใหญ่กว่าที่เธอคิดไว้มาก ทั้งยังพูดชมประเทศสหรัฐ ว่า เป็นดินแดนที่มหัศจรรย์ นอกจากการร่วมงานประกาศผลออสการ์แล้ว เด็ก ๆ กลุ่มนี้ยังได้มีโอกาสเที่ยวชมสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ เด็กหญิงรูบีนาบอกว่า เธอชอบเครื่องเล่นทุกชนิด แต่ที่ไม่ชอบคืออาหารอเมริกันเพราะไม่ถูกปาก
เมื่อเด็กทั้งสองกลับมายังประเทศอินเดีย พวกเขาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและกลายเป็นคนดังเพียงชั่วข้ามคืน ชีวิตความเป็นอยู่ล้วนถูกช่างภาพปาปารัสซีบันทึกเอาไว้ ด้านทีมงานผู้สร้างภาพยนตร์ ตัดสินใจส่งเสียเด็กทั้งสองให้ได้เข้าโรงเรียน และจะออกค่าเล่าเรียนให้จนกระทั่งพวกเขามีอายุครบ 18 ปี
ส่วนกองทุนที่จัดตั้งไว้ จะให้เด็กทั้งคู่ถอนเงินออกมาใช้ได้ ก็ต่อเมื่อพวกเขามีอายุครบ 18 ปีแล้วเท่านั้น โดยหวังว่า ความช่วยเหลือนี้จะโน้มนำให้เด็กสองคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น. -สำนักข่าวไทย