ฉากที่ 1: ความเงียบในฟลอเรนซ์
กันยายน 2022 ท่ามกลางบรรยากาศอุ่นแดดของทัสคานี Nicolas Puech ทายาทสายตรงของตระกูล Hermès นั่งอยู่ในห้องประชุมที่ดูเหมือนการพบปะของศิลปินชั้นสูง ทุกสายตาจับจ้องไปที่มูลนิธิ Isocrates ที่กำลังจะได้รับมรดกมูลค่า 1.3 หมื่นล้านยูโร
แต่ในขณะที่บอร์ดบริหารกำลังถกเถียงเรื่องอนาคตทางการเงินที่ซับซ้อน Puech กลับพูดถึงเพียงเรื่องเดียว: “สีเขียวของโลโก้นี้ มันเข้มไปหรือเปล่า?”
ข้างกายเขาคือ Eric Freymond นายธนาคารผู้ซื่อสัตย์ (หรืออาจจะดู "พินอบพิเทา" จนเกินงาม) เขาคือคนจัดทริปนี้ คือคนที่กุมกุญแจทุกดอกในชีวิตของทายาทวัยชรา และคือคนที่คอยกัน "ครอบครัว" ออกไปจากวงโคจร
ฉากที่ 2: หมาป่าในเสื้อคลุมแคชเมียร์
หลังเสียงรถไฟขบวนสุดท้ายผ่านไป ความจริงก็เริ่มปรากฏ เมื่อ Puech ตื่นขึ้นมาพบว่าอาณาจักรของเขาเป็นเพียง "ปราสาททราย" หุ้น Hermès เกือบ 6% ที่เคยถือครอง... มันหายไป ไม่ใช่หายไปเมื่อวาน แต่มันถูกทยอยระเหยหายไปนานนับทศวรรษผ่านช่องโหว่ที่เรียกว่า Bearer Shares หรือหุ้นไม่ระบุชื่อ ที่ใครถือใบหุ้นไว้ คนนั้นคือเจ้าของ
ความลับดำมืดถูกขุดคุ้ย Freymond ถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับสองหน้า ผู้แอบเปิดประตูหลังบ้านให้ Bernard Arnault แห่ง LVMH เข้ามาสะสมหุ้นแบบเงียบเชียบ เป็นการทรยศต่อตระกูลที่เจ็บแสบที่สุดในประวัติศาสตร์แฟชั่น
ฉากที่ 3: ปลายทางที่รางรถไฟ
กรกฎาคม 2024 เรื่องราวมาถึงจุดวิกฤตเมื่อมีการแอบอ้างขายหุ้นให้ราชวงศ์กาตาร์ แต่ "ของ" กลับไม่มีอยู่จริง ในวันที่ความจริงกำลังจะถูกกระชากหน้ากากที่หน้าศาลสวิส Freymond เลือกทางออกสุดท้าย เขาปั่นจักรยานออกจากชาเลต์หรู มุ่งหน้าสู่รางรถไฟ... ทิ้งความลับมูลค่าหมื่นล้านไว้ใต้ล้อเหล็ก
บทส่งท้าย
วันนี้ Nicolas Puech ชายที่เคยรวยที่สุดคนหนึ่งของยุโรป นั่งอยู่ในบ้านที่ไม่ใช่ชื่อตัวเอง ด้วยเงินช่วยเหลือจากญาติที่เขาเคยหันหลังให้
บทเรียนของเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแฟชั่น แต่มันคือเรื่องของ "ความไว้ใจ" ที่แพงที่สุดในโลก เพราะในโลกของคนรวย... ศัตรูที่น่ากลัวที่สุด ไม่ใช่คู่แข่งที่อยู่ตรงข้าม แต่มันคือคนที่ถือกุญแจบ้านให้เราในยามที่เราหลับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น