2554/09/16

ไฟฟ้าช็อต ผลกระทบ อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด Electric Shock


ไฟฟ้าช็อต เป็นอุบัติเหตุที่พบได้บ่อยในสถานที่ต่าง ๆ การใช้ไฟฟ้า อาจเกิดจากความประมาทเผลอเรอ การใช้เครื่องไฟฟ้าผิดวิธี หรือจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เป็นต้น

ผ่านเหตุการณ์ระทึกขวัญ คนงานโดนไฟฟ้าช๊อต ขณะซ่อมใบพัดกังหันน้ำเติมอากาศ ในบ่อน้ำ และมีการเปิดกระแสไฟฟ้าโดยประมาท.. ทำให้ คนงานถูกช๊อต.. หมดสติ และรีบนำส่ง รพ. นับว่าโชคดีที่อาการดีขึ้นแล้ว และปลอดภัยดี..
ดังนั้น จึงนำเกร็ดความรู้ มาฝาก.. เผื่อให้ใครเจอกับเหตุการณ์เหล่านี้จะได้ตั้ง สติได้


คนที่ถูกไฟฟ้าช็อตอาจมีอาการรุนแรงแตกต่างกันไป (ตั้งแต่บาดแผลไหม้เพียงเล็กน้อยจนกระทั่งตาย) ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่างเช่น

1. ลักษณะของผิวหนังส่วนที่สัมผัสถูกไฟฟ้า ถ้าผิวหนังแห้งจะมีความต้านทานสูง เกิดอันตรายน้อย แต่ถ้าผิวหนังเปียกชื้น (เช่น มีเหงื่อหรือเปียกน้ำ) หรือมีบาดแผลสด (เช่น ถูกมีดบาด เข็มแทง หรือแผลถลอก) จะมีความต้านทานต่ำ เกิดอันตรายได้สูง

2. ชนิดของกระแสไฟฟ้า ไฟฟ้ากระแสตรง (directcurrent) เช่น ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่
หรือถ่านไฟ จะทำอันตรายได้น้อย ส่วนไฟฟ้ากระแสสลับ (alternting current) จะทำอันตรายได้มาก กระแสไฟฟ้าที่มีความถี่ต่ำ (เช่น ขนาด 50-60 รอบต่อวินาที) จะมีอันตรายร้ายแรงกว่าความถี่สูง กระแสไฟฟ้าที่ใช้ตามบ้านถือว่าเป็นชนิดที่มีอันตรายสูง

3. ตำแหน่งและทางเดินของกระแสไฟฟ้าในร่างกาย ถ้าไฟฟ้าวิ่งจากแขนไปแขน หรือ
แขนไปเท้า จะมีอันตรายกว่าจากเท้าลงดิน เพราะสามารถวิ่งผ่านและทำอันตรายต่อหัวใจ (ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ) หรือถ้ากระแสไฟฟ้าสามารถวิ่งผ่านสมอง (ทำให้หยุดหายใจ) วิ่งผ่านกล้ามเนื้อ (ทำให้ชัก กระดูกหักหรือกล้ามเนื้อเป็นอัมพาต)


อาการขึ้นกับปัจจัยต่างๆ ดังกล่าว
บางคนเมื่อถูกไฟฟ้าช็อต อาจเพียงแต่ทำให้ล้มลงกับพื้น (ถ้าตกจากที่สูงก็อาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้) หรือของหล่นจากมือ ถ้าเป็นรุนแรงอาจมีอาการฃักเกร็งของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย แล้วตามด้วยอาการตื่นเต้น หายใจเร็ว และหมดสติ อาจหยุดหายใจหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นอันตรายถึงตายได้ทันที

บางคนอาจหมดสติชั่วครู่ เมื่อฟื้นขึ้นมาอาจรู้สึกปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ และมีความรู้สึกหวาดผวาได้

นอกจากนี้ อาจทำให้เกิดบาดแผลไหม้ตรงผิวหนังและกินลึกเข้าไปในเนื้อเยื่อบริเวณใกล้เคียง ทำให้เป็นแผลไหม้สีเทาและไม่รู้สึกเจ็บ ถ้าบาดแผลมีขนาดใหญ่ อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ เช่นเดียวกับบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก และอาจมีการติดเชื้อแทรกซ้อนได้

บางคนอาจมีกระดูกสันหลัง และกระดูกส่วนอื่น ๆ หัก เนื่องจากการชักกระตุก หรือตกจากที่สูง บางคนอาจมีภาวะเม็ดเลือดแดงแตก มีอาการซีดเหลือง

การปฐมพยาบาล
เมื่อพบคนที่ถูกไฟฟ้าช็อต ควรรีบให้ความช่วยเหลือ ดังนี้
1. รีบปิดสวิตช์ไฟ หรือถอดปลั๊กไฟทันที

2. ถ้าทำไม่ได้ จำเป็นต้องช่วยให้คนที่ถูกไฟฟ้าช็อตหลุดออกจากสายไฟที่มีกระแสไฟวิ่งอยู่ โดยผู้ที่ทำการช่วยเหลือจะต้องกระทำด้วยความระมัดระวังอย่างสูงเขาต้องยืนอยู่บนฉนวนแห้ง ๆ เช่น ไม้กระดาน กระดาษ หนังสือพิมพ์ ผ้าห่ม เสื่อ ผ้ายาง หรือผ้า แล้วใช้ด้ามไม้กวาด ไม้กระดาน ขาเก้าอี้ หรือไม้เท้าไม้ที่แห้ง เขี่ยสายไฟให้พ้นจากผู้ป่วย หรือดันร่างกายส่วนที่สัมผัสไฟให้หลุดออกจากสายไฟห้ามใช้โลหะ หรือวัตถุที่เปียกน้ำเป็นอันขาด ควรใช้ไม้หรือฉนวนไฟฟ้าที่แห้ง และห้ามมิให้แตะต้องตัวผู้ป่วยโดยตรงจนกว่าจะหลุดพ้นออกจากสายไฟเสียก่อน

3. ควรตรวจดูการหายใจ ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจให้ทำการเป่าปากช่วยหายใจทันที ถ้าหัวใจหยุดเต้น (คลำชีพจรไม่ได้) ให้ทำการนวดหัวใจพร้อมกันไป จนกว่าจะหายใจได้เอง
ถ้าผู้ป่วยหายใจได้เอง แต่ยังหมดสติควรจัดผู้ป่วยให้อยู่ในท่าพักฟื้น และให้ทำการปฐมพยาบาลเช่นเดียวกับผู้ป่วยหมดสติจากสาเหตุอื่น

4. รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลด่วน และควรตรวจดูการหายใจอย่างใกล้ชิด ถ้าหยุดหายใจ
ควรเป่าปากช่วยมาตลอดทางจนกว่าจะถึงโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น: